วันที่ 11 ต.ค. ประชาชนในนาม "กลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000" เดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือเจตนารมณ์และสนับสนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 ของรัฐบาล ภายหลังจากมีนักวิชาการและสมาชิกวุฒิสภา (สว.) บางส่วน ออกมาคัดค้าน โดยมี สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง มารับเรื่อง
จุติพงษ์ พุ่มมูล แกนนำกลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต อ่านแถลงการณ์ ว่า ตามที่กลุ่มนักวิชาการและผู้เห็นต่างทางการเมือง ออกมาคัดค้านนโยบายดังกล่าวนั้น แต่ทางกลุ่มเห็นว่านโยบายดังกล่าวเป็นการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมในการสร้างโอกาสและต่อลมหายใจในการดำรงชีวิตของประชาชนและตลอดจนสร้างอาชีพ และทำให้กรุงไทยมีเกียรติมีศักดิ์ศรีลืมตาอ้าปากได้ จึงขอให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการดังกล่าวเพื่อเป็นไปตามนโยบายที่หาเสียงและแถลงต่อรัฐสภา
ส่วนการคัดค้านของฝ่ายนักวิชาการที่ออกมานั้น มีอคติต่อรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย โดยไม่เห็นหัวประชาชนคนยากจน จึงพยายามชี้ให้เห็นว่านโยบายดังกล่าวขัดต่อนโยบายการเงินการคลังหรือจะทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ โดยไม่มีความเข้าใจถึงเรื่องพายุหมุนทางเศรษฐกิจหรือดิจิตอลอีโคโนมิคส์ พร้อมมองว่าการคัดค้านกล่าวทำให้เห็นว่า คนรวยบางกลุ่มมองไม่เห็นหัวคนจนรากหญ้าซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
แกนนำกลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายดิจิตอลวอลเล็ตฯ กล่าวอีกว่า ประเทศเสียโอกาสและเวลามามากพอแล้วกับความเห็นต่างที่ล้าหลัง ดั่งเช่นเหตุการณ์ในอดีต เรื่องรถไฟความเร็วสูงและการบริหารจัดการน้ำ จนทำให้ประเทศเดินช้ากว่าที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ขอให้รัฐบาลดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เห็นต่างที่มีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นที่ให้ไปถอนเงินจากธนาคาร ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น ผมขอให้ประชาชนที่เห็นด้วยแสดงความจำนงผ่านมายังช่องทางสื่อของรัฐบาลเพื่อเดินหน้าโครงการดังกล่าว
ขณะที่ สมคิด ระบุว่า นโยบายดังกล่าวเมื่อมีหลายท่านแสดงความเห็นไม่ตรงกัน ทั้งสนับสนุนและคัดค้านนั้น รัฐบาลจึงยินดีที่จะนำความเห็นทุกกลุ่มไปศึกษาพูดคุยกัน โดยจะไม่มองว่ากลุ่มไหนรวยหรือจน แต่จะมองว่าเป็นความเห็นที่ตรงไปตรงมาหรือไม่
พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อ แต่จะมีการหาสิ่งที่ลงตัว เนื่องจากเท่าที่ตนได้สัมผัสทั้งพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเขาก็เห็นด้วย และก็มีบางส่วนไม่เห็นด้วยเหมือนกัน ฉะนั้นจะรับฟัง โดยช่วงเย็นวันนี้ต้นจะไปพูดคุยกับ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ถึงประเด็นที่มีความเห็นต่างกันด้วย พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะฟังทุกเสียง
ส่วนกรณีที่ สว.ออกมาวิจารณ์นโยบายดังกล่าวนั้น สมคิด ระบุว่า สว. แต่ละกลุ่มก็มีความคิดของตัวเอง ซึ่งตนมองว่าไม่ได้ผิดอะไร แต่เราจะรวบรวมความคิดเห็นไปพิจารณาด้วย รวมถึงชี้แจงกับ สว. พร้อมเสนอว่า สว.สามารถตั้งกระทู้สดถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ และตนพร้อมประสานงานให้
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมจับตานโยบายดังกล่าวนั้น สมคิด ระบุว่า ตนเห็นแต่ข่าว ยังไม่ได้ติดตามรายละเอียด จึงไม่แน่ใจว่าจะจับตาเรื่องอะไร เพราะนโยบายดังกล่าวเราได้ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตอนเลือกตั้งไปแล้ว จึงคิดว่าเราไม่น่าจะผิดอะไรหรอก และคิดว่าป.ป.ช.ไม่ได้ติดตามแต่ประเด็นดังกล่าว
เมื่อถามว่า คนที่ออกมาค้านมองว่าเป็นเรื่องของการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย สมคิด ระบุว่า ตนไม่อยากพูดชื่อบางท่านก็คิดอคติเกินไป แต่บางท่านก็ติติงในเชิงหลักการ แต่บางคนใส่ความคิดส่วนตัวอคติเกินไปหน่อย ฉะนั้นขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลเศรษฐาในฐานะพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศชาติให้เดินหน้าฟื้นขึ้นได้ พร้อมระบุว่า ตนไม่อยากพูดว่ารัฐบาลที่แล้วก็ทำเหมือนกัน เพียงแต่ว่ามันยังไม่ฟื้น และมันกระปริบกระปรอยเพียงแค่ 300-500 ต่อเดือน แต่รัฐบาลนี้โยนไปทีเดียว 6 เดือน พร้อมระบุว่า ส่วนพื้นที่การใช้ส่วนตัวมองว่าควรกำหนดรัศมีเป็นอำเภอ เพราะจังหวัดมันกว้างเกินไป
เมื่อถามถึงกระแสเรียกร้องที่แจกเฉพาะกลุ่ม สมคิด ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาว่าจะคัดกลุ่มคนจนและคนรวยอย่างไร แต่โดยส่วนตัวคิดว่า ควรมอบให้ทุกคน เพราะถ้าคนรวยไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร เพราะถือเป็นสิทธิ์ เพราะถ้าไม่ใช้ก็จะต้องคืนภายใน6 เดือนโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว เพราะหากจะไปดูฐานเรื่องใครรวยใครจนมันยาก เนื่องจากแนวคิดง่ายแต่การปฏิบัติยาก
อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยการถือสากกระเบือ พร้อมเปรียบเทียบกลุ่มนักวิชาการที่ค้านโครงการ ว่า เป็นนักวิชาการสากกะเบือ