ไม่พบผลการค้นหา
สถานทูตจีนประจำกรุงโซลและกรุงโตเกียวระบุว่า ทางการจีนได้ระงับการพิจารณาให้วีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้นแก่ผู้ถือสัญชาติเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งปรากฏเด่นชัดว่าเป็นการตอบโต้มาตรการควบคุมนักท่องเที่ยวขาเข้าจากจีนของทั้งสองชาติ สืบเนื่องจากความกังวลถึงตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ในจีนที่พุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางการรายงานข้อมูลตัวเลขการติดเชื้อและการเสียชีวิตที่ไม่โปร่งใสของรัฐบาลจีน

เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็น 2 ในหลายสิบประเทศ ที่ออกมาตรการควบคุมผู้โดยสารขาเข้าจากประเทศจีน สืบเนื่องจากความกังวลถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในจีน หลังจากที่รัฐบาลจีนยกเลิก “นโยบายโควิดเป็นศูนย์” เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา จากการที่มีการประท้วงของประชาชนที่ไม่พอใจต่อนโยบายดังกล่าวทั่วทั้งประเทศ

ทั้งนี้ ทางการจีนออกมาระบุว่า มาตการการควบคุมการเดินทางขาเข้าของหลายสิบประเทศต่อผู้เดินทางมาจากจีนนั้น เป็นมาตการที่เลือกปฏิบัติต่อผู้ถือสัญชาติจีน และเป็นมาตรการที่ไม่วางอยู่บนฐานทางวิทยาศาสตร์ 

“สถานทูตและสถานกงสุลจีนในเกาหลีจะระงับการออกวีซ่าระยะสั้นสำหรับพลเมืองเกาหลี” สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงโซลกล่าวในแถลงการณ์ พร้อมระบุเสริมว่ามาตรการดังกล่าวจะถูก “ปรับเปลี่ยนอีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการยกเลิกข้อจำกัดอันเลือกปฏิบัติต่อจีนของเกาหลีใต้” ในอีกทางหนึ่ง สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงโตเกียวประกาศในแถลงการณ์สั้นๆ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (10 ม.ค.) ว่า การออกวีซ่าสำหรับพลเมืองญี่ปุ่นจะถูกระงับเช่นกัน โดยไม่ได้ระบุเหตุผลหรือข้อบ่งชี้ว่ามาตรการดังกล่าวจะถูกบังคับใช้ไปอีกนานเพียงใด

ความเคลื่อนไหวของจีนดังกล่าวมีขึ้นไม่นาน หลังจากที่ทางการญี่ปุ่นออกกฎเข้มงวดต่อประเด็นโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางที่มาจากจีนโดยตรง โดยกำหนดให้ผู้เดินทางจากจีนต้องมีผลตรวจ PCR เป็นลบน้อยกว่า 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เช่นเดียวกับผลตรวจเป็นลบเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น ในขณะที่เกาหลีใต้ออกมาตรการหลายอย่างสำหรับผู้เดินทางมาจากจีนเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการจำกัดวีซ่าและข้อกำหนดการตรวจหาเชื้อ

ปัจจุบันนี้ โรงพยาบาลในจีนกำลังมีผู้ป่วยล้นเกินนับตั้งแต่ทางการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งบังคับใช้การล็อกดาวน์ กักตัว และตรวจหาเชื้ออย่างเข้มงวดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการประท้วงทั่วประเทศจากความล้มเหลวในการกำจัดไวรัส และกลับทำให้โควิด-19 กำลังแพร่กระจายไปในหมู่ประชากร 1.4 พันล้านคน ทั้งนี้ ความกังวลดังกล่าวเกี่ยวกับขนาดและผลกระทบของการระบาดส่งผลให้ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ได้ออกมาตรการให้ผู้เดินทางจากจีนตรวจหาเชื้อโควิด-19 และพบผลเป็นลบ

หลังจากเปิดประเทศเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้จีนยังไม่ออกวีซ่านักท่องเที่ยว และกำหนดให้ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบสำหรับผู้เดินทางขาเข้าทั้งหมด เกาหลีใต้ยังจำกัดเที่ยวบินจากจีน และนักเดินทางจากแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และมาเก๊า ที่จะต้องตรวจหาเชื้อเป็นลบก่อนออกเดินทาง ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า มาตรการของเกาหลีใต้ต่อผู้เดินทางมาจากจีนเป็นไปตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่ยังถูกตรวจหาเชื้อเมื่อเดินทางมาถึง และต้องกักตัวเป็นเวลา 1 สัปดาห์หากตรวจพบเชื้อโควิด-19

จนถึงตอนนี้ จีนได้หยุดเผยแพร่รายงานผู้ติดเชื้อรายวัน แม้จะกำลังเผชิญการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 3 ปีก็ตาม โดยจีนมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายต่อวันนับยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่องค์การอนามัยโลก (WHO) โต้แย้ง และระบุว่าไม่สอดคล้องกับผู้ให้บริการงานศพที่รายงานความต้องการการเผาศพที่เพิ่มขึ้น WHO ยังระบุมาตรการป้องกันของจีนนี้ว่า “พอเข้าใจได้” เนื่องจากการขาดข้อมูล และ WHO ได้เรียกร้องให้จีนแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดลำดับพันธุกรรมโควิด-19 รวมถึงตัวเลขการรักษาตัวในโรงพยาบาล การเสียชีวิต และการฉีดวัคซีนอีกด้วย


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2023/1/10/china-stops-issuing-visas-to-south-korean-japan-over-covid-curbs?fbclid=IwAR3wxI3p63enQ50IYPavgj7QvlXnnSWm3RHDMdDf0fQ91DMs05nXr8Ir3xI