คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวให้กำลังใจ ศาสตราจารย์ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา และรองศาสตราจารย์ ดร.พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล 2 นักวิชาการผู้ต่อสู้กับการใช้สารเคมีในภาคเกษตร พร้อมระบุ "ทั้ง 2 ท่านถูกขู่เอาชีวิต" จึงฝากให้รัฐบาลช่วยดูแลความปลอดภัยกับนักวิชาการทั้ง 2 ท่านนี้ด้วย
นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังแสดงความนับถือในความกล้าหาญของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรของสภาผู้แทนราษฎร ที่มี ส.ส.ชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานกรรมาธิการ ที่ได้ประกาศยกเลิกใช้สารเคมีอันตรายทั้ง 3 ชนิด คือ พาราควอต, ไกลโฟเซต และคลอไพริฟอส ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเกษตรกระและผู้บริโภค
ทั้งนี้ ตนเคยประกาศจุดยืนของพรรคเพื่อไทยเป็นสัญญาประชาคมในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาแล้วว่า จะพลิกฟื้นแผ่นดินไทยให้เป็นศูนย์กลางผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคชาวไทย และเพื่อส่งขายป้อนตลาดโลก ต้องกล้าเปลี่ยนประเทศครั้งใหญ่ และจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลดีต่อประเทศและคนไทยอย่างมหาศาล คือ
ดังนั้น ตนจึงสนับสนุนการยกเลิกการใช้สารเคมีพิษทุกตัวในการเกษตร ที่ตนเห็นตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข และรัฐมนตรีเกษตร แต่การยกเลิกการใช้สารเคมี จะประกาศยกเลิกอย่างเดียวไม่ได้ ต้องช่วยเกษตรกรด้วย เราต้องคิดแก้ปัญหาทั้งระบบ ไม่ให้พี่น้องเกษตรกรลำบาก เพราะถ้าสั่งยกเลิกไม่ให้ใช้เพียงอย่างเดียวแล้ว จะให้เกษตรกรใช้อะไรมากำจัดศัตรูพืช ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดการขายสารพิษใต้ดินแบบผิดกฎหมาย เหมือนขายยาบ้า ทำให้ราคาสูง และผิดกฎหมาย เกษตรกรก็จะเป็นผู้รับเคราะห์อีก
"พรรคเพื่อไทย เราคิดครบทุกด้าน คิดถึงแผนการหลังเลิกใช้สารพิษแล้ว จึงนำข้อเสนอนโยบายกองทุนปรับเปลี่ยนหน้าดิน ให้เป็นเครื่องมือในการพลิกแผ่นดินไทยให้กลายเป็น "ศูนย์กลางผลิตอาหารปลอดภัย" โดยเราจะใช้เงินกองทุนนี้ เพื่อสนับสนุนการใช้เครื่องมือและการใช้สารอินทรีย์ในการกำจัดวัชพืช และศัตรูพืชให้เกษตรกร เช่น เครื่องมือกำจัดหญ้า อย่างที่เห็นในภาพที่ดิฉันได้ไปศึกษากับเกษตรผู้ปลูกไร่อ้อยหลายราย จนพิสูจน์ว่าได้ผล และเป็นเครื่องมือที่ผลิตโดยคนไทย รวมทั้งการให้เงินทุนกับเกษตรกร ในการปรับเปลี่ยนการผลิตมาเป็นเกษตรอินทรีย์
การลงทุนปรับเปลี่ยนหน้าดินของไทยให้ปราศจากสารพิษ เพื่อการผลิตอาหารปลอดภัยให้คนไทย และขายสู่ตลาดโลก สร้างรายได้ดีให้เกษตรไทยอย่างยั่งยืน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากว่าการไปซื้ออาวุธอย่างแน่นอน๐