ไม่พบผลการค้นหา
ป.ป.ส.แจ้งความคดียึดเคตามีนเป็นโซเดียมไตรฟอสเฟส ยันไม่สลับของกลาง ตร.จ่อชงอธิบดีอัยการตั้งคณะสอบสวน ลุยตรวจของกลางที่เหลือพรุ่งนี้ (24 พ.ย.)

ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) วิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.แจ้งความร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.ให้ดำเนินคดีผู้ร่วมขบวนการส่งออกเคตามีนไปยังประเทศไต้หวันกว่า 300 กิโลกรัม หลังไปยึดเคตามีนที่โกดังใน จ.ฉะเชิงเทรา กว่า 11.5 ตัน มูลค่านับ 20,000 ล้านบาท แต่กลับพบว่าเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟตที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ

วิชัย กล่าวว่า นำเอกสารที่ได้รับจากประเทศไต้หวันจับกุมเคตามีนไว้ได้ 300 กิโลกรัม มาแจ้งความเอาผิดกับผู้ร่วมขบวนการลอบส่งเคตามีนไปยังประเทศไต้หวัน ซึ่งบุคคลรายนี้อยู่ในประเทศไทย โดยเช่าโกดังเพื่อเก็บเฟอร์นิเจอร์แต่เมื่อตรวจค้นกลับเป็นที่เก็บสารเคมี ทั้งนี้ขอชี้แจงถึงกรณีที่ตรวจสอบเคตามีนกว่า 11.5 ตัน แล้วพบว่ามีบางส่วนเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟส เบื้องต้นพบว่าสารเคมีทั้ง 2 ชนิด มีลักษณะภายนอกเหมือนกัน เบื้องต้นตอนตรวจค้นที่โกดังพบของกลาง 66 กระสอบถูกเปิดอยู่ ที่เหลือ 406 กระสอบยังเย็บปากถุงปิดไว้ พอตรวจสอบด้วยน้ำยาเคมีกับกระสอบที่เปิดไว้แสดงผลออกมาเป็นสีม่วง จึงเชื่อว่าเป็นเคตามีนตามที่ไต้หวันจับกุมได้จากต้นทาง จากนั้นก็ได้ร่วมกับ บช.ปส.นำของกลางไปเก็บไว้ที่ ป.ป.ส.ภาค 1 โดยเช่ารถบรรทุกขนของกลางไว้ 2 คัน และมีขบวนรถจากหลายหน่วยงานคอยคุ้มกันและแวะเติมน้ำมันที่เดียว ยืนยันไม่มีการสับเปลี่ยนของกลาง

วิชัย กล่าวว่า ต่อมาเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าสารเคมีดังกล่าวคือ ไตรโซเดียมฟอสเฟส ซึ่งไม่เคยพบว่าก่อนว่าสารตัวนี้จะแสดงผลเป็นสีม่วง โดยในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) เวลา 09.30 น.นักวิทยาศาสตร์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และผู้เชี่ยวชาญของ ป.ป.ส.จะตรวจพิสูจน์สารเคมีจากของกลางทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ ป.ป.ส.ภาค 1 แต่ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 วัน จึงจะทราบว่าของกลางที่เหลือเป็นยาเสพติดหรือไม่

วิชัย ชี้แจงด้วยว่า สาเหตุที่การตรวจสอบล่าช้านั้น เพราะที่ไต้หวันจับกุมตรวจยึดของกลางได้วันที่ 23 ต.ค.ก่อนส่งเอกสารให้ไทยลงวันที่ 29 ต.ค. และ ป.ป.ส.รับเรื่องวันที่ 2 พ.ย. จึงจะสืบสวนหาข้อมูลถึงวันที่ 12 พ.ย.แล้วเข้าตรวจค้นโกดัง พร้อมทำบันทึกการเข้าตรวจค้น ซึ่งผลการทดสอบสารเคมีที่พบเบื้องต้นพบเป็นเคตามีนจึงบันทึกเป็นสารคล้ายเคตามีนทุกรายการ โดยมีพยานนำตรวจค้นและตำรวจท้องที่ได้สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ พฐ.ได้เก็บหลักฐานเป็นที่เย็บปิดปากถุง พร้อมประสานประเทศต้นทางเก็บหลักฐานใบส่งสินค้าและอื่นๆ ซึ่งจะนำมามอบให้ บช.ปส.ภายหลัง

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า บช.ปส.ได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงจากทั้งพยานหลักฐาน บุคคล และเอกสาร เบื้องต้นรับคำร้องทุกข์ไว้พิจารณาดำเนินการอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีระหว่างประเทศที่เชื่อมโยงกับประเทศไทย ฉะนั้นการสอบสวน บช.ปส.ต้องเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประสานอธิบดีอัยการตั้งคณะทำงานสอบสวน เพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านของยาเสพติดต่อไป ทั้งนี้พบว่าเคตามีนไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย แต่เป็นทางผ่านเพื่อไปสู่ประเทศที่ 3