ต่างประเทศ
สหรัฐฯ จับทหารอากาศวัย 21 ปี ต้องสงสัยทำเอกสารกระทรวงกลาโหมหลุด
เมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (13 เม.ย.) ว่า แจ็ค เทเซรา พลทหารอากาศวัย 21 ปี ถูกจับกุมตัว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการสอบสวนใน “การถูกกล่าวหาว่าลบ เก็บรักษา และส่งข้อมูลทางกลาโหมของประเทศที่เป็นความลับ”
“เทเซราเป็นเจ้าพนักงานของกองกําลังป้องกันชาติกองทัพอากาศสหรัฐฯ ” การ์แลนด์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการแถลงข่าวสั้นๆ “เจ้าหน้าที่ FBI จับเทเซราเข้ามาอยู่ในการควบคุมเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดยไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น”
การรั่วไหลของเอกสารลับจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งถูกแชร์ต่อกันผ่านทางโลกออนไลน์ ยังคงกลายเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ ในขณะที่คณะบริหารของรัฐบาล โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามค้นหาความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น
เอกสารหลุดเหล่านี้แสดงการประเมินทางทหารของสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามในยูเครน รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรระดับสูงของสหรัฐฯ เช่น อิสราเอล และเกาหลีใต้ โดยหนึ่งในเอกสารที่ถูกเผยแพร่ล่าสุดระบุว่า สหรัฐฯ กำลังจับตาดู อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการแห่งสหประชาชาติ เพราะเชื่อว่าเขาใจอ่อนเกินไปต่อรัสเซีย หลังจากการรุกรานยูเครนเกิดขึ้น
The New York Times รายงานในวันพฤหัสบดีว่า เจ้าหน้าที่ FBI หลายนายที่ติดอาวุธด้วยปืนไรเฟิล บุกเข้าไปในที่พักแห่งหนึ่งในมลรัฐแมสซาชูเซตส์เพื่อทำการจับกุมเทเซรา โดยในแถลงการณ์ FBI ระบุว่า พวกเขา "ได้ติดตามตัวผู้ถูกสืบสวนอย่างอุกอาจ" ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว “การจับกุมในวันนี้เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราในการระบุ ไล่ตาม และหาความรับผิดชอบต่อผู้ที่ทรยศต่อความไว้วางใจของประเทศ และทำให้ความมั่นคงของชาติตกอยู่ในความเสี่ยง” แถลงการณ์ FBI ระบุ
ภาพวิดีโอการจับกุมซึ่งฉายในช่องข่าวของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่กำลังติดตามชายหนุ่มสวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสีแดงสดเข้าไปในรถที่จอดรอในเมืองนอร์ทไดตัน เมืองเล็กๆ ห่างจากเมืองพรอวิเดนซ์ของมลรัฐโรดไอส์แลนด์ไปทางตะวันออกราว 30 กิโลเมตร
The New York Times รายงานว่า มีความเชื่อว่าชายหนุ่มวัย 21 ปีรายนี้ เป็นหัวหน้ากลุ่มแชทเกมขนาดเล็กบนแอปโซเชียลมีเดีย Discord ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีเอกสารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รั่วไหล ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยการจับกุมเทเซรารคาดว่าจะทำให้เกิดคำถามว่า การรั่วไหลของข่าวกรองสหรัฐฯ ที่โด่งดังที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี อาจมีสาเหตุมาจากเจ้าหน้าที่ทหารอายุน้อยคนดังกล่าวได้อย่างไร
“สิ่งที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการรั่วไหลตั้งแต่เริ่มแรกก็คือ นี่เป็นช่องทางที่แปลกมากสำหรับพวกมัน (เอกสารที่รั่วไหล) ที่จะโผล่ออกมา (ทาง Discord)” เดวิด ซิลบีย์ รองศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยคอร์แนลล์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนโยบายกลาโหมและประวัติศาสตร์การทหาร กล่าวกับ Al Jazeera ก่อนข่าวการจับกุม
“ถ้ามันเป็นการกระทำแบบจารกรรม ทำไมถึงปล่อยมันไว้บนเซิร์ฟเวอร์ Discord แบบสุ่มล่ะ คุณจะไม่เปิดเผยต่อสาธารณะอยู่ดี คุณแค่ส่งมันกลับไปที่รัสเซีย หากเป็นการรั่วไหลที่จะแบ่งปันกับสาธารณะ มันเป็นเรื่องของการรั่วไหลที่เลวร้ายที่สุด” ซิลบีย์กล่าว แต่ไม่ว่าเจตนาของเทเซราจะเป็นเช่นไร ซิลบีย์กล่าวเสริมว่าการรั่วไหลยังคงมี "นัยสำคัญ"
ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แพต ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า การรั่วไหลดังกล่าวเป็น “การกระทำโดยเจตนาและเป็นอาชญากรรม” โดย “เรายังคงทำงานตลอดเวลาร่วมกับหน่วยงานระหว่างหน่วยงานและชุมชนข่าวกรอง เพื่อทำความเข้าใจขอบเขต ขนาด และผลกระทบของการรั่วไหลเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น” ไรเดอร์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ย้ำว่า ทางหน่วยงานไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับการสืบสวนที่กำลังดำเนินอยู่ของกระทรวงยุติธรรม และไม่สามารถเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับเอกสารได้มากนัก “เรายังคงทบทวนปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องเอกสารในชั้นความลับ” ไรเดอร์กล่าว “ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบและอัปเดตรายชื่อการแจกจ่าย การประเมินวิธีการ และตำแหน่งที่มีการแบ่งปันวัตถุข่าวกรอง และขั้นตอนอื่นๆ ที่หลากหลาย”
กระทรวงยุติธรรมไม่ได้ระบุว่า เทเซราจะโดนข้อหาใดบ้าง แม้ว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับข้อหาทางอาญาในการจงใจเก็บรักษาและส่งข้อมูลการป้องกันประเทศ ทั้งนี้ แบรนดอน วาน กราก อดีตอัยการฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันทำงานกับสำนักงานกฎหมาย Morrison Foerster ระบุกับสำนักข่าว Reuters ว่า ข้อกล่าวหาที่มีแนวโน้มว่าอาจมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี แม้ว่าเทเซราจะไม่ได้ตั้งใจก่อให้เกิดอันตรายก็ตาม
“ผมคิดว่าเขาคือคนที่ต้องเผชิญกับข้อหาขั้นสูงสุดเป็นเวลาหลายปีในคุก… เพราะการรั่วไหลนั้นสร้างความเสียหายอย่างมาก” วาน กราก กล่าว ทั้งนี้ โฆษกของสำนักงานอัยการสหรัฐฯ ในบอสตันกล่าวว่า เทเซราน่าจะปรากฏตัวครั้งแรกบนชั้นศาลในวันศุกร์นี้ (14 เม.ย.)
ที่มา:
