หันดูตัวอย่างในต่างประเทศ บางประเทศกัญชามีสถานะเป็นยาเสพติด บางประเทศก็ไม่ใช่ แต่แม้จะเปิดให้ประชาชนใช้ได้ก็มีมาตรการควบคุม จำกัดอายุ จำกัดจำนวน เราจะพาไปดูกรณีศึกษาที่รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก และแคนาดา
ปัจจุบันอังกฤษได้จัดกัญชาให้อยู่ในยาเสพติดประเภท B เป็นกลุ่มที่มีความรุนแรงปานกลาง ได้แก่ แอมเฟตามีน เคตามีน กัญชา เป็นต้น ใครที่ครอบครอง มีโทษจำคุก 5 ปี แต่ตอนหลังการใช้กัญชาได้ถูกปรับให้สามารถนำมาใช้สำหรับผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ด้วยยาที่ทำจากกัญชา โดยการตัดสินใจผ่อนปรนการใช้กฎหมายเกี่ยวกับกัญชานี้เกิดขึ้นหลังจากกรณีของเด็กที่ป่วยเป็นโรคลมชัก 2 คนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาและบรรเทาอาการของโรคจากน้ำมันกัญชาได้ อังกฤษจึงอนุญาตให้ใช้การใช้กัญชาทางการแพทย์เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2561
การใช้กัญชาเชิงสันทนาการในสหรัฐฯได้รับการรับรองใน 19 มลรัฐ และสามารถใช้ในเชิงการแพทย์ได้ใน 37 มลรัฐ
กรณีรัฐโคโลราโด รัฐธรรมนูญแห่งรัฐโคโลราโด (Colorado Constitution of 1876, 2017) ได้กำหนดว่า
1. บุคคลที่ที่อายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สามารถใช้กัญชาได้ภายใด้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
2.การใช้กัญชาต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดโดยกฎหมายจะควบคุมกัญชาเช่นเดียวกับควบคุมสุรา ดังนี้
2.1 บุคคลต้องแจ้งอายุก่อนซื้อกัญชา
2.2 การขาย หรือการส่งกัญชาไปยังผู้เยาว์หรือผู้มีอายุต่ำกว่า 21 ปี บริบูรณ์ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
2.3 ห้ามผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมากัญชา
2.4 กัญชาที่จำหน่ายภายในรัฐโคโลราโดต้องติดฉลากและต้องดำเนินการตามเงื่อนไขของกฎหมายเพื่อให้ประชาชนรับทราบ
3. การกระทำของบุคคลอายุกว่า 21 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย
3.1 การครอบครอง การใช้ การนำออกแสดง การขนส่งส่วนประกอบของกัญชา น้ำหนักไม่เกิน 1 ออนซ์สามารถทำได้
3.2 การครอบครอง การปลูก การดำเนินการ หรือการขนส่งต้นกัญชาไม่เกิน 6 ต้น และการครอบครองผลผลิตของกัญชาซึ่งเกิดจากตันกัญชาที่ปลูกอยู่บนที่ดินซึ่งต้นกัญชานั้นได้เจริญเติบโต หรือเจริญเติบโตในที่ซึ่งมีรั้วรอบขอบชิดไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะและห้ามทำการจำหน่ายกัญชาดังกล่าวด้วย
3.3 การส่งกัญชาน้ำหนักน้อยกว่า 1 ออนซ์ โดยไม่ได้รับสินจ้าง แก่บุคคลอายุเกินกว่า 21 ปี บริบูรณ์สามารถทำได้
3.4 การผลิต การครอบครอง หรือการซื้อส่วนประกอบของกัญชา หรือการขายส่วนประกอบของกัญชาแก่บุคคลซึ่งมีอายุ 21 ปี บริบูรณ์สามารถทำได้
3.5 การกระทำที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการครอบครอง การนำออกแสดง หรือการขนส่งกัญชาหรือผลิตภัณฑ์กัญชา การซื้อจากสถานที่เพาะปลูก ซื้อจากโรงงานผู้ผลิต หรือการขายให้กับผู้บริโภค ถ้าบุคคลกระทำการในกระบวนการกิจกรรมที่กล่าวมานี้ ร้านค้าขายปลีกกัญชาต้องได้รับการอนุญาตตามกฎหมาย
1. กัญชาถือเป็น soft drug ดังนั้นการจำหน่ายกัญชาโดยสถานประกอบการซึ่งได้แก่ coffee shop ถือเป็นความผิดทางอาญา อย่างไรก็ตาม coffee shop จะไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาโดยรัฐ เพราะมีข้อผ่อนปรน โดยต้องไม่ก่อให้เกิดปัญหารบกวนสาธารณะ ไม่จำหน่ายยาเสพติดให้โทษรุนแรง (hard drug) ไม่จำหน่ายกัญชาให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ห้ามทำการโฆษณา ห้ามจำหน่ายกัญชาในปริมาณที่สูงเกินกว่า 5 กรัม ต่อการซื้อขาย 1 ครั้ง อีกทั้ง Coffee Shop จะต้องได้รับอนุญาตจากเทศบาลท้องถิ่น ซึ่งแต่ละเทศบาลอาจไม่อนุญาตให้เปิดกิจการประเภทนี้ก็ได้
2. ห้ามเสพกัญชาในที่สาธารณะ ทั้งนี้การครอบครองกัญชาสำหรับประชาชนทั่วไปจะไม่ถูกดำเนินคดีหากมีกัญชาในครอบครองปริมาณไม่เกิน 5 กรัม หรือ 5 ต้น ต่อ 1 คน
3. อนุญาตให้ Coffee Shop จำหน่ายกัญชาให้เฉพาะผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในเนเธอร์แลนด์เท่านั้น โดย Coffee shop มีหน้าที่ต้องขอดูหลักฐานดังกล่าว
4. ที่ตั้งของ Coffee Shop จะต้องอยู่ห่างจากโรงเรียนเกินกว่า 350 เมตร
5. กัญชาที่มี THC เกินกว่า 15% ถือเป็นยาเสพติดรุนแรงและผิดกฎหมาย
6. ห้ามปลูกกัญชาเพื่อการพาณิชย์ โดยประชาชนทั่วไปสามารถปลูกกัญชาเพื่อการเสพส่วนตัวได้ไม่เกินครัวเรือนละ 5 ต้น
กัญชาในสาธารณรัฐเช็กถูกห้ามมิให้ใช้ในเชิงสันทนาการซึ่งในเวลาต่อมามีการลดโทษทางอาญาแก่ผู้ครอบครองเพื่อใช้ส่วนตัวไม่เกิน 10 กรัม และสามารถเพาะปลูกได้ครัวเรือนละไม่เกิน 5 ต้นและต้องมีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 1% เท่านั้น
สาธารณรัฐเช็กอนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้หากมีการรับรองโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
กัญชาในแคนาดาสามารถถูกใช้ได้ทั้งในเชิงการแพทย์และสันทนาการ โดยประชาชนที่บรรลุนิติภาวะแล้วสามารถซื้อผลผลิตจากกัญชาได้จากร้านค้าและผู้ผลิตที่ได้รับกาารับรองตามกฎหมายเท่านั้น ส่วนร้านค้าห้ามขายกัญชาดิบ หรือผลผลิตจากกัญชาให้แก่เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หากฝ่าฝืนจะถูกจำคุก 14 ปี สามารถครอบครองกัญชาได้สูงสุด 30 กรัม ปลูกได้สูงสุด 4 ต้นต่อครัวเรือน และยังอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้อีกด้วย
1. ห้ามนักศึกษา บุคลากรอุดมศึกษา ใช้กัญชาเพื่อการนันทนาการ
2. ผู้บริหารสถานศึกษาต้องควบคุมร้านอาหารบริเวณสถานศึกษา ห้ามมีส่วนผสมกัญชง กัญชา
3. ผู้บริหารต้องส่งเสริมกิจกรรมที่ให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชง กัญชา
4. การรักษา หรือศึกษาเกี่ยวกับกัญชาต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้บริหาร
================
ที่มา:
รายงานวิจัยเอกสารนโยบายและการจัดการปัญหากัญชา กรณีศึกษาประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา, แผนงานภาคีวิชาการสารเสพติด (ภวส.)
การใช้ประโยชน์จากกัญชงและกัญชาเชิงพาณิชย์ในเนเธอร์แลนด์, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์.
https://www.justice.gc.ca/eng/cj-jp/cannabis/
https://cms.law/en/int/expert-guides/cms-expert-guide-to-a-legal-roadmap-to-cannabis/czech-republic
เรียบเรียงโดย อัครคมน์ เสริฐธิกุล