การยั่วยุจากกลุ่มฮินดูหัวรุนแรงเกิดขึ้นทั่วทุกมุมเมืองของอินเดีย ชาวมุสลิมอินเดียบางรายที่อาศัยอยู่ในละแวกที่มีกลุ่มคนมุสลิมและฮินดูอยู่อาศัยร่วมกันต่างต้องเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่พวกเขาถูกขว้างปาด้วยหิน จนก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทและการจลาจลบนท้องถนนของอินเดียในหลายครั้งเป็นระยะๆ โดยเฉพาะช่วงวันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาฮินดู
ภาพที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในช่วงวันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาคือ ชายหนุ่มฮินดูหัวรุนแรงจะเข้าร่วมงานเทศกาลวันหยุดทางศาสนา ก่อนที่จะยกขบวนของตนเองเข้าไปยังละแวกชุมชนของคนมุสลิม หลายต่อหลายครั้งจบลงที่การเกิดเหตุรุนแรงจากการปะทะกันของคนมุสลิมและฮินดู
อินเดียมีประชากรที่นับถือศาสนาฮินดูทั้งสิ้นราว 80% ในขณะที่ชาวมุสลิมเป็นชนกลุ่มน้อยเพียงแค่ 14% ตลอดประวัติศาสตร์ของอินเดีย คนทั้งสองกลุ่มศาสนาต่างผ่านความเจ็บปวดและเหตุการณ์นองเลือด อย่างไรก็ดี ตลอดช่วงเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิมในอินเดียที่ผ่านมา การยั่วยุและความขัดแย้งของคนมุสลิมและฮินดูในอินเดียเริ่มส่งสัญญาณอันตรายเพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“การจลาจลไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่” ซาบา นาควี ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับความขัดแย้งทางศาสนาในอินเดียกล่าว “แต่ฉันไม่เคยเห็นเหตุการณ์จำนวนมากในช่วงเวลาเดียวเท่านี้มาก่อน มันเหมือนกับว่าผู้คนพร้อมที่จะฆ่ากันแล้ว”
เมื่อช่วงวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกันวันฉลองวันเกิดของพระรามในศาสนาฮินดูของอินเดีย เกิดการปะทะกันครั้งใหญ่ระหว่างชาวฮินดูและมุสลิมทั่วทั้งประเทศ ทั้งในรัฐมัธยประเทศ ฌารขัณฑ์ คุชราต กัว เบงกอลตะวันตก และอานธรประเทศ ไม่ต่างอะไรไปจากในกรุงเดลี มีภาพปรากฎบนโซเชียลมีเดียจำนวนมากถึงกลุ่มชายที่โบกอาวุธไปมา พร้อมกับการเปล่งเสียงบทสวดสรรเสริญพระราม การยั่วยุนำมาสู่การปะทะกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บนับร้อย มีผู้เสียชีวิตในอำเภอคาร์กอนของรัฐมัธยประเทศด้วยหนึ่งราย
การยั่วยุไม่ได้เกิดเพียงแค่ในกลุ่มมวลชนฮินดูหัวรุนแรง ผู้นำฮินดูฝ่ายขวาตลอดจนนักบวชในศาสนาฮินดูต่างออกมาขับกล่อมให้มวลชนในศาสนาของตนหยิบอาวุธ และ “ทำการชำระล้างทำความสะอาด” ในการสังหารชาวมุสลิม ญาติ นรสิงห์นันท์ นักบวชฮินดูถูกทางการอินเดียจับกุมตัว พร้อมตั้งข้อหาการใช้ถ้อยคำที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง นรสิงห์นันท์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหลังการได้รับประกันตัว เขาพูดกับมวลชนว่าหากอินเดียได้เลือกนายกรัฐมนตรีที่เป็นมุสลิม ชาวฮินดูครึ่งประเทศจะถูกคนมุสลิมสังหาร
บัจรัง มุนี นักบวชและผู้นำศาสนาฮินดูยังได้ออกมาขู่เรื่องการข่มขืนหญิงมุสลิม ก่อนที่เขาจะถูกทางการจับกุมตัวจากข้อหาการใช้ถ้อยคำที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา กระแสการรณรงค์ต่อต้านชาวมุสลิมเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในอินเดีย ทั้งการเล็งเป้าในทุกแง่มุมของชีวิต ตั้งแต่การค้าขายและทำธุรกิจ การบริโภคอาหารตามความเชื่อ โอกาสในการมีงานทำ การแต่งกายตามหลักศาสนาของหญิงมุสลิม สิทธิในการละหมาด หรือแม้แต่กระทั่งการเลือกคู่ครอง
สื่อกระแสหลักของอินเดียถูกครอบงำโดยกลุ่มชาตินิยมฮินดูด้วยเช่นกัน และพวกเขาใช้เวทีของสื่ออย่างโทรทัศน์ในการกล่าวโจมตีและยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังต่อชาวมุสลิมในหมู่ประชาชนชาวฮินดู ภาษาอูรดูยังถูกกลุ่มชาตินิยมฮินดูโจมตี เนื่องจากมีรากภาษาที่เกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรมมุสลิม
เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างมุสลิมและฮินดูกลับเกิดขึ้นได้ เพียงแค่ความเชื่อที่แตกกันในเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ในช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ชายมุสลิมเจ้าของรถเข็นขายเนื้อในรัฐอุตตรประเทศถูกกลุ่มอันธพาลฮินดูเข้าทำร้ายรถของตนจนได้รับความเสียหาย จากข้ออ้างว่าชายมุสลิมทำการขายเนื้อสัตว์ในช่วงเทศกาลวันศักดิ์สิทธิ์ของพระราม อย่างไรก็ดี ชายมุสลิมที่ถูกทำลายทรัพย์สินระบุว่าในวันนั้น ตนทำการขายอาหารมังสาวิรัต
นัควีกล่าวว่า นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย และพรรคภารตียชนตา (BJP) ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มฮินดูชาตินิยมเมินเฉยต่อความพยายามในการหยุดยั้งการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนชาวฮินดูและมุสลิม และหลายต่อหลายครั้ง กลุ่มจลาจลชาวฮินดูมักลอยนวลพ้นผิดจากการทำร้ายร่างกายชาวมุสลิมในอินเดีย พรรคฝ่ายค้าน 13 พรรคของอินเดียยื่นจดหมายขอให้โมดีออกแถลงการณ์เพื่อช่วยสงบสถานการณ์ที่ตึงเครียดลง แต่นายกรัฐมนตรีอินเดียกลับเมินเฉย
นอกจากนี้ ผู้นำของพรรคภารตียชนตาตลอดจนสมาชิกรัฐสภาของพรรคยังได้ออกแถลงการณ์หรือร่วมร้องเพลงต่อต้านชาวมุสลิมในอินเดียอย่างเปิดเผยและเป็นการส่วนตัว ท่ามกลางความสับสนและโกรธแค้นในบรรดามวลชนฮินดูและมุสลิมที่มีต่อกัน กระแสความเกลียดชังระหว่างศาสนาทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นตลอดช่วงเวลาที่นักการเมืองฮินดูชาตินิยมเริ่มเรืองอำนาจในรัฐสภาและรัฐบาลอินเดียในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ตั้งแต่การขึ้นสู่อำนาจของโมดี ที่ประกาศนโยบายการทำให้อินเดียเป็น “ชนชาติฮินดู” ทั้งทางอัตลักษณ์ การดำรงชีวิต การเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ไม่เว้นแม้แต่การประกาศการแบนการบริโภคเนื้อวัวในระดับชาติตามความเชื่อของชาวฮินดู ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนอีกทางหนึ่งทางของชาวมุสลิมในอินเดีย ยังไม่รวมถึงความขัดแย้งของรัฐบาลอินเดียในพื้นที่แคชเมีย ซึ่งมีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเป็นชนมุสลิมด้วยเช่นกัน
Global Voices วิจารณ์ว่า พรรคชาตินิยมฮินดูของอินเดียถูกก่อตั้งขึ้นมาในช่วงทศวรรษที่ 2470 โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรที่ไม่ต่างอะไรไปจากพรรคนาซีของเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งนี้ กลุ่มองค์กรชาตินิยมเดียวกันนี้เองที่กำลังปกครองอินเดียอยู่ และกำลังเล็งเป้าหมายสร้างความเกลียดชังและใช้ความรุนแรงต่อชาวมุสลิมภายในประเทศของตนเองอย่างหนัก
คำถามของอินเดียในตอนนี้มีที่ทางอยู่ระหว่างสองแพร่งคือ อินเดียจะหลีกเลี่ยงความรุนแรงจากความเชื่อทางศาสนที่ต่างกันอย่างไร กับ อินเดียจะเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นเมื่อใด
ที่มา:
https://www.washingtonpost.com/world/2022/04/20/india-hindu-muslim-communal-violence/