คบหาดูใจกันมากว่า 4 ปี คู่รักต่างวัยสายท่องเที่ยว 'ปั๊บ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข' หรือ 'ปั๊บ โปเตโต้' วัย 39 ปี และ ใบเตย สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ วัย 28 ปี ก็พร้อมเข้าสู่ประตูวิวาห์ หลังขอแต่งงานกันไปเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2563 ภายในครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเผยความคืบหน้าก่อนแต่งงาน โดยเผยว่าฤกษ์แต่งงานที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 พ.ย. 2563 เป็นฤกษ์ที่ได้ดูไว้ตั้งแต่ 2 ปีก่อน ฤกษ์แรกและฤกษ์เดียว ที่โรงแรมคอนราด โดยจะจัดพิธีเช้าตามประเพณี ที่มีการแห่ขันหมาก ยกน้ำชา รดน้ำสังข์ แถลงกับสื่อมวลชน ก่อนที่ช่วงบ่ายจะจัดงานเลี้ยง ส่วนธีมงานตอนนี้ยังตกลงกันไม่เรียบร้อย แต่เน้นไปที่ความเรียบง่าย ซึ่งว่าที่เจ้าสาวเตรียมชุดไว้ 3 ชุดแต่ยังไม่เรียบร้อยดี ขณะที่ชุดของ ปั๊บ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเตรียมงานตอนนี้เตรียมไปกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ และน่าจะได้เริ่มแจกการ์ดปลายเดือนกันยายน
ทั้งนี้ ทั้งคู่เผยว่า ภาพถ่ายทั้งคู่ที่มีพื้นหลังเป็นท้องฟ้า ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ภาพถ่ายพรีเวดดิ้ง เป็นเพียงภาพที่ช่างภาพที่รู้จักถ่ายให้ ส่วนภาพพรีเวดดิ้งจริงถ่ายเสร็จ เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการถ่ายรูปคู่แบบเป็นทางการในรอบหลายปี หลังจากซีรีส์ทิ้งไว้กลางทาง ซึ่งเสื้อผ้าเน้นแนวสบายๆ กึ่งทางการ
ใบเตย ได้เผยถึงความประทับใจที่มีต่อ ปั๊บ ว่าตั้งแต่วันแรกที่คบกันจนถึงวันนี้ ปั๊บ เป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย
"พี่ปั๊บพูดตั้งแต่วันแรกที่คบกัน จะทำทุกวันให้ดีที่สุด ต่อให้จะแต่งงานหรือยังไงเขาก็ยังเป็นเหมือนเดิม เหมือนวันแรกที่คบกัน เขาสม่ำเสมอ เสมอต้นเสมอปลายในเรื่องความรู้สึก หลังแต่งงานด้วยความที่เขาเป็นคนแบบนี้คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ว่าสถานะของการใช้ชีวิต หรือว่าเรื่องของครอบครัวของคงอัปเวล"
ขณะที่ ปั๊บ เผยว่าฝ่ายสาวคนที่พักพิงยามที่เขาอ่อนแอได้ และรักนี้เกิดจากสัญชาตญาณ
"มันไม่ต้องใช้เหตุผลเยอะในการเลือกชีวิตคู่สักคน มันก็เป็นแค่เซนส์และสัญชาตญาณล้วนๆ สุดท้ายแล้ว ผมเต็มที่ตั้งแต่แรก เราใส่ความรู้สึกไปทั้งหมดไม่ได้กั๊กว่า เรายังไม่สมรสกัน ฉะนั้นไม่ต้องคิด เต็มที่กับชีวิตความรัก เราต้องเรียนรู้ไปจนแก่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นแม่ของลูกฉันต้องเหมาะสม ผมว่าตัวผมเองและตัวเขาเองก็ต้องมีการปรับตัวตลอดเวลาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังต้องปรับ ผมว่ามันก็สนุกดีที่จะมีใครสักคนมาเป็นบัดดี้ในชีวิตของเรา อย่างผมก็เพิ่งได้เรียนรู้ว่าเราสามารถแสดงความอ่อนแอให้กับคนที่เรารู้สึกว่าเหมือนเป็นที่พิงให้เรา ไม่ต้องเป็นผู้ชายที่เหมือนถูกปลูกฝังมาว่าต้องสตรอง จริงๆก็เหมือนสลับกัน รู้สึกว่าตรงนี้มากกว่าที่เป็นเรื่องใหม่ในชีวิตผมหลังจากที่มันเริ่มเป็นทางการเรื่อยๆ"
ทั้งนี้ แผนหลังแต่งงานเรื่องทายาททั้งคู่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะยังมีงานต่อเนื่องที่ยังต้องทำหลังแต่ง อาจจะทำงานสักพัก ให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางก่อน