ไม่พบผลการค้นหา
‘ไพบูลย์’ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปิดช่องดีล ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ จัดตั้งรัฐบาล ยืนยัน ไม่สบายใจกับนโยบายทั้งสองพรรค ลั่น ‘ก้าวไกล’ ปัญหามากสุด และขอรับผิดชอบคำพูดตัวเอง

วันที่ 10 เม.ย. ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงแนวทางและจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ หลังมีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะไปรวมกับพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ว่า ตนขอยืนยันเราต้องการสร้างพรรคพลังประชารัฐให้เป็นที่ยึดมั่น เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ความหวงแหนต่อประเทศ และขจัดความยากจน ซึ่งกระแสข่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าพรรคพลังประชารัฐ จะไปร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ ตนขอยืนยันว่า เราไม่ประสงค์จะไปร่วม เราต้องการเป็นพรรคการเมืองที่มีอิสระ เอกภาพในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างสมบูรณ์ ยืนยันว่าไม่ไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลอย่างแน่นอน”

เมื่อถามว่า ได้คุยกับหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคแล้วใช่หรือไม่ ไพบูลย์ ระบุว่า ตนได้คุยกับผู้ใหญ่ในพรรค เรายืนยันว่าไม่ร่วม ส่วนการไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล เฉพาะช่วงนี้หรือหลังการเลือกตั้งนั้น ไม่ร่วมคือไม่ร่วม เหตุผลที่ประชาชนเข้าใจ เพราะนโยบายพรรคที่ตนเอ่ยถึง มีนโยบายที่รับไม่ได้ในหลายเรื่อง ไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน

เมื่อถามว่า จะสวนทางกับแนวทางของพรรคก้าวข้ามความขัดแย้งหรือไม่ ไพบูลย์ กล่าวว่า เราไม่เห็นด้วยกับนโยบาย เป็นการใช้สิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตย แต่เราไม่ได้สร้างความรุนแรง เป็นเพียงแค่แถลงจุดยืนว่าเราไม่สบายใจกับนโยบายต่างๆ

“ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐไม่แสดงความเห็นต่างๆ หลังพรรคเพื่อไทยออกมาแถลงจุดยืนไม่ขอร่วมงานกับ 2 ลุง เพราะการเสนอนโยบายพรรคพลังประชารัฐยังไม่มีความชัดเจน แต่เมื่อพรรคต่างๆ เสนอนโยบาย เราย่อมมีสิทธิ์ที่จะดูว่าพรรคใดร่วมได้หรือไม่ได้ และรับนโยบายเหล่านั้นได้หรือไม่ แต่นโยบายพรรคก้าวไกลมีปัญหามากที่สุด พรรคเพื่อไทยเป็นอันดับที่สอง” ไพบูลย์ ระบุ 

เมื่อถามว่า การออกมาแถลงจุดยืนแบบนี้ เป็นการตัดโอกาสร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ในรัฐบาลหรือไม่ ไพบูลย์ ย้ำว่า เห็นนโยบายของทั้งสองพรรคแล้วไม่สบายใจจึงไม่ขอร่วม ส่วนนโยบายที่พรรคเพื่อไทย ประกาศแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นปัญหาร้ายแรง ทำให้เกิดปัญหา ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ การเสนอนโยบายแบบนี้เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจะต้องมีกฎหมายรองรับ หากจะดำเนินการต้องนำเสนอเข้าสู่รัฐสภา การจ่ายเงินแบบหว่านแห เป็นแนวทางที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในนโยบายของพรรคการเมือง หากจะให้ผ่านต้องเสนอกฎหมายในสภาฯ ส่วนตัวเชื่อว่าจะได้รับการต่อต้านจากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา กฎหมายจะต้องถูกยับยั้งและใช้เวลานานในการที่จะให้ผ่าน และเมื่อเข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะพิจารณาว่าไม่สามารถดำเนินการได้ การหาเสียงแบบไปตายเอาดาบหน้า ตนไม่เห็นด้วย ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด 

อีกทั้ง นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ มีกฎหมายรองรับและเป็นการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง สังคมต้องการยกระดับให้บุคคลเหล่านี้มีรายได้เพิ่มขึ้น นโยบายของพรรคพลังประชารัฐเน้นที่จะช่วยเหลือประชาชนให้หลุดพ้นจากความยากจน ก้าวข้ามความยากจนให้ได้ เป็นการดำเนินการภายใต้กฎหมายที่มีการรองรับ 

เมื่อย้ำถามว่า ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าได้คุยในจุดยืนไม่ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลแล้วใช่หรือไม่ ไพบูลย์ ย้ำว่า “ผมรับผิดชอบคำพูดผม”