การผลิตละคร สัก 1 เรื่อง สิ่งที่ผู้จัดละครทุกคนต้องการ คือ ได้นักแสดงมากฝีมือ มีชื่อเสียง มารับบทพระเอกนางเอก เพื่อดึงผู้ชมและสร้างเรตติ้งให้กับละครเรื่องนั้นๆ แต่ถ้าผู้จัดละคร ได้รับโจทย์ ในการปั้นนักแสดงหน้าใหม่ เพื่อมาแสดงบทพระเอกนางเอก การแบกรับความเสี่ยงที่เลือกไม่ได้ แต่ก็ต้องลอง เพื่อเป็นโอกาส ให้มีดาวดวงใหม่ มาประดับวงการ แต่ก็ใช่ว่า การใช้ พระเอกนางเอกหน้าใหม่ ละครจะไม่ประสบความสำเร็จ

ยกตัวอย่างจาก ซีรีส์ 4 หัวใจแห่งขุนเขา ที่ละครเรื่องนี้ สร้างพระเอกนางเอกหน้าใหม่มาประดับวงการแบบยกเซ็ต ทั้ง หมาก ปริญ ,ณเดชน์ คูกิมิยะ ,บอย ปกรณ์ ,คิมเบอร์ลี่ ,ญาญ่า อุรัสยา ,มาร์กี้ ราศรี และ มินต์ ชาลิดา หรือ ซีรีส์ชุด สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ที่สร้างเหล่าคุณชาย มาให้สาวๆหลงใหล ไม่ว่าจะเป็น เกรท วรินทร ,โป๊ป ธนวรรธน์ ,เจมส์ จิรายุ ,บอม ธนิน,เจมส์ มาร์ จากทฤษฎีความสำเร็จนี้

ต่อเนื่องมาถึง ซีรีส์ ลูกผู้ชาย ภูผา เพชร และ ปัทม์ ที่ผู้จัดละคร ได้รับโจทย์ใหญ่ ในการสร้าง พระเอก นางเอกหน้าใหม่ มาประดับวงการ

ซึ่งเมื่อละครเรื่องนั้นๆ ต้องมีนักแสดงนำของเรื่อง เป็นนักแสดงหน้าใหม่ สิ่งที่ผู้จัดละครต้องทำ สิ่งแรก คือ การหานักแสดงที่มีคาแรกเตอร์ตามบทบาท และส่งไปเรียนการแสดงพื้นฐาน จากนั้น นักแสดงเสริม ตัวละครแวดล้อมต่างๆ จะต้องเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ เพื่อส่งอารมณ์ให้นักแสดงหน้าใหม่เหล่านี้ แสดงละครออกมาได้อย่างลื่นไหล

ชุดาภา จันทเขตต์ ผู้จัดละครจาก ค่าย โซนิกซ์ บูม 2013 เปิดเผยกับทีมข่าว วอยซ์ออนไลน์ ว่า ในซีรี่ส์ลูกผู้ชาย เรื่อง ภูผา ไม่ใช่ละครเรื่องแรกที่เธอจะต้องสร้างนักแสดงหน้าใหม่ ก่อนหน้านี้เธอเคยกำกับละคร เรื่อง พรพรหมอลเวง ตอนนั้น ต้องทำงานกับนักแสดงเด็ก อย่าง น้องอันดา หรือละคร ไฟรักเพลิงแค้น ที่ต้องสร้างให้ แยม มทิรา ตันติประสุต จากเด็กสาววัย 18 ตอนนั้น กลายเป็นสาวเปรี้ยวนักเรียนนอกที่เต็มไปด้วยความแค้น และละครซีรีส์ชุดนี้ เป็นการร่วมมือกันของ 3 ผู้จัด เมื่อได้รับโจทย์มา เราได้ทำการเปิดแคสติ้ง หาตัวละครที่ตรงตามบทบาท จากนั้น จึงส่งนักแสดงเหล่านี้ไปเรียนการแสดง เพื่อช่วยให้ง่ายขึ้นต่อการถ่ายทำ ส่วนตัวละครอื่นๆแวดล้อม จะเป็นนักแสดงที่มีฝีมือการแสดง ซึ่งพวกเขา จะสามารถช่วยส่งอารมณ์ให้กับนักแสดงหน้าใหม่ได้เป็นอย่างดี

“มันเป็นความท้าทายสำหรับเราส่วนหนึ่ง แล้วมันก็เป็นความเซอร์ไพรส์สำหรับคนดูส่วนหนึ่ง ถ้านักแสดงที่มีความสามารถอยู่แล้ว คนดูก็จะเฉยๆ ถ้ามันไม่ใช่บทที่โดนใจ"

จริยา แอนโฟเน่ ผู้จัดละคร ค่าย เมคเกอร์เจ กรุ๊ป และเป็นนักแสดงมากฝีมือ เล่าว่า การปั้นนักแสดงหน้าใหม่ เป็นเหมือนการเปิดโอกาสสร้างดาวดวงใหม่มาประดับวงการบันเทิง เธอนึกถึงตัวเธอเองในวันที่เข้ามาเล่นละคร ในวันแรกๆ ว่า ณ วันนั้น เราอายุเท่านั้น บางอย่างประสบการณ์ชีวิต เรายังนึกไม่ออกเลย ว่ามันจะต้องเล่ายังไง เพราะว่าเราจะต้องโดดไปเป็นตัวละครอีกคนหนึ่ง ซึ่งประสบการณ์แบบตัวละครเราไม่มี เราต้องจินตนาการเยอะมาก แต่เวลาที่เราเอาผู้ร่วมแสดงเก่งๆ เข้ามา มันเหมือนได้ถ่ายทอดในสิ่งที่ ที่ถูกต้องให้เด็กเห็น ส่วนการคัดเลือกนักแสดงใหม่ ก็ต้องมีคุณสมบัติ สำหรับการเป็นนักแสดงต่อๆไป อย่างเช่น หน้าตาต้องน่ามอง ต้องมีพื้นฐานทางการแสดงมาพอสมควร และเมื่อหยิบมาจับมาลงกับบท หรือว่าได้ลอง ทดสอบ ใดๆแล้ว ต้องไม่ขัด กับบทนั้นๆ อาจจะชีวิตจริงกับบทเขาอาจจะเป็นคนละเรื่องกัน แต่เมื่อมาสวมบทตัวละครแล้ว เขาจะต้องมีหน้าที่ ที่จะต้องถ่ายทอด ความเป็นตัวละครแล้ว ออกมาแล้วคนเชื่อ 

“ทำงานกับเด็กๆ เราได้พลังใหม่ๆ และได้เรียนรู้ อะไรใหม่ๆ ซึ่งเราจะต้องตอบคำถามเขาได้ เวลาเขามีคำถามทางด้านการแสดง”

ด้าน ผู้จัดละคร ค่าย มาสเตอร์ วัน มองว่า การทำละคร ทุกเรื่องมีความเสี่ยงหมด ไม่ว่าจะเป็น การเอานักแสดงหน้าเก่าหรือจะเป็นคนที่เคยผ่านผลงานมาแล้ว มาลองเล่น แต่เมื่อได้รับโจทย์ ปั้นนักแสดงหน้าใหม่ การคัดเลือกนักแสดงมีฝีมือ มาแวดล้อม ตัวละครใหม่ๆ จะช่วยส่งต่ออารมณ์ให้นักแสดงเหล่านั้นได้ และทำให้นักแสดงใหม่ ไม่ตื่นเต้น หรือกดดันเกินไป ในการเข้าฉาก อีกทั้ง ดาราคนนั้นๆ จะดัง หรือ ไม่ดัง ยังอยู่บทบาทที่ได้รับ บางทีเรื่องแรกๆ ยังจับจุดการแสดงไม่เจอ ยังไม่เจอบทที่เหมาะกับตัวเอง แต่เมื่อได้รับโอกาสเรื่อง ถัดๆไป และเข้าใจในบทบาทการแสดง การสามารถพลิก กลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงได้

“เอิน สนุกกับการได้ทำงานกับคนใหม่ๆอยู่แล้ว เรารู้สึกว่า พอเราได้ปั้นคน เราได้เจอกับคนใหม่ๆ ได้ทำงานกับคนใหม่ๆ เราก็มีความสุข”

เรียกได้ว่า แม้จะเป็นความเสี่ยง ในกระบวนการทำละคร แต่ถ้า “ปิดกั้น” ไม่เปิดโอกาส” ให้คนรุ่นใหม่ ได้ลองแสดง ก็จะไม่สามารถสร้าง ดาวดวงใหม่มาประดับวงการบันเทิงได้เลย