เพราะ 'ลูก' คือแก้วตาดวงใจ พ่อ-แม่จึงต้องเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกน้อย ด้วยความหวังที่จะให้เขาเติบโตอย่างปลอดภัย แข็งแรง เช่นเดียวกับ เอย-ชาลิกา สาริสุต คุณแม่ลูกสอง เจ้าของแบรนด์ BUM BUM baby organic เล่าจุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์ว่า "อยากให้ลูกได้ใช้ของดี ไม่แพ้" 

กว่าจะเป็น 'BUM BUM baby organic'

ย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อน สมัยที่ลูกสาวคนโตอายุได้ประมาณ 5 เดือน ต้องเผชิญกับกลิ่นอึ๊ของลูกทุกวัน เปลี่ยนแพมเพิสแต่ละครั้งต้องคอยกลั้นหายใจ พยามหาสบู่อาบน้ำเด็กมาล้าง แต่ก็ไม่ตอบโจทย์ เพราะส่วนใหญ่ใช้แล้วจะลื่นๆ ล้างออกยาก แถมไม่กลบกลิ่น นำมาสู่คำถามว่า ทำไมไม่มีแบรนด์ไหนโฟกัสเรื่องล้างก้นลูกเลย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เอย ชวน โบว์ (รัชนู ชยุติแสงไพศาล) พี่สาวที่ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง มาร่วมหุ้นทำแบรนด์เด็กที่มีคุณภาพดีที่สุด หวังให้ลูกได้ใช้ ลูกเพื่อนใช้ และลูกคุณแม่ท่านอื่นได้ใช้ของดีมีคุณภาพไปด้วยกัน

"ตอนแรกทุกคนก็บอกให้ทำครีมอาบน้ำเด็ก โลชั่นทาผิวเด็ก ให้ทำแบบเบสิคที่ยังไงก็ขายได้ชัวร์ๆ ก่อน แต่เรามีความคิดว่า ถ้าเราทำเหมือนคนอื่นตั้งแต่แรก แม่ๆ จะจดจำแบรนด์เราได้อย่างไร เราเลยเลือกความเสี่ยงค่ะ เสี่ยงที่จะโฟกัสผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับก้นเด็กก่อน"

• โบว์-รัชนู ชยุติแสงไพศาล และ เอย-ชาลิกา สาริสุต ผู้ก่อตั้งแบรนด์ 'BUM BUM baby organic'

ผลิตภัณฑ์แรกที่บัมบัมเปิดตัว คือ โฟมล้างก้นเด็กออร์แกนิค ที่มีลักษณะเป็นเนื้อโฟมนุ่มละเอียด มีสารสกัดออร์แกนิคบีทรูท และดอกทานตะวันช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น สามารถดับกลิ่น พร้อมทั้วบำรุงผิวก้นลูกน้อยไปพร้อมกัน ที่สำคัญใช้แล้วไม่มีกลิ่นติดมือคุณแม่อย่างแน่นอน นับว่าเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทยที่โฟกัสเรื่องก้นเด็ก 

ตามมาด้วย สเปรย์บำรุงก้นเด็กออร์แกนิค ที่มีส่วนผสมของน้ำสกัดจากผลส้มบริสุทธิ์ออร์แกนิค และใบโรสแมรี่สกัดจากธรรมชาติ ช่วยลดการอักเสบ ลดรอยแดงและผดผื่น จากการอับชื้นของแพมเพิส พร้อมทั้งยังช่วยบำรุงผิวก้นของลูกน้อย ซึ่งเราพัฒนาสูตรกว่าปีครึ่ง สารสกัดของบัมบัมทุกตัว Made with certified organic ingredients อาทิ ECOCERT, USDA , JAS ORGANIC ทำให้สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด จนถึงเด็กที่เป็นผื่นแพ้ผิวหนัง

"สเปรย์บำรุงก้นเด็กเหมือนอาวุธลับ ที่ทำให้ก้นลูกเนียน ช่วยบำรุงผิวก้นลูกน้อย และช่วยลดผดผื่น ป้องกันการเกิดผดผื่นไปพร้อมกัน ใช้ทุกครั้งหลังอาบน้ำ หลังเปลี่ยนผ้าอ้อม แค่ฉีดสเปรย์ไป 2-3 ปั๊ม รอให้แห้ง ใส่ผ้าอ้อมต่อ แค่นี้ก้นลูกจะเนียนเด้ง ผดไม่ขึ้น สามารถใช้เป็น routine หรือ everyday use ได้เลย ถ้าน้องเป็นผดผื่นในบริเวณอื่น ก็สามารถใช้สเปรย์ฉีดได้ ไม่ระคายเคือง"

เอย บอกว่า จุดเด่นของบัมบัมคือกลิ่นของผลิตภัณฑ์ ที่ไม่ได้มาจากน้ำหอม แต่มาจากน้ำมันออยล์สกัดจากธรรมชาติ รวมทั้งทุกสิ่งที่ผสมอยู่ในทุกผลิตภัณฑ์ เราคัดสรรสารกัดที่มาจากธรรมชาติ และฟาร์มออค์แกนิค ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบัมบัมนั้นอ่อนโยนต่อผิวของลูกน้อย ปราศจากสารเคมีทุกชนิด ทำให้คุณแม่สามารถไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ได้

ความท้าทายของ 'BUM BUM' เมื่อออกสู่ตลาด

ความท้าทายของการทำผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยมีในตลาด ในช่วงปีแรกที่เริ่มทำธุรกิจคนอาจจะไม่กล้าลองใช้ ทำให้ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักแบรนด์มากนัก ส่งผลให้ยอดขายค่อนข้างนิ่งมาก จนกระทั่งเข้าปีที่ 2 แม่ๆ ได้มีโอกาสทดลองใช้ผลิตภัณฑ์แล้วชอบจึงเริ่มบอกต่อกันเองแบบ Organic ทำให้คนเริ่มรู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้นต่อเนื่อง โดยที่เราแทบจะไม่ได้โปรโมทอะไรเลย ถือว่าได้รับเสียงตอบรับที่ดี 

ทุกวันนี้ช่องทางการขายของบัมบัมเน้นขายผ่านออนไลน์ Shopee, Lazada, Facebook, LINE Official และ Voice Plaza แต่ช่องทางที่สร้างยอดขายเกินร้อยละ 50 มาจากตัวแทนจำหน่ายที่เป็นคุณแม่ที่ไปเปิดดีลตามกลุ่มไลน์ต่างๆ ซึ่งช่วยสร้างการบอกต่อ การซื้อซ้ำ ได้เป็นอย่างดี 

"เราเปิดรับตัวแทนจำหน่ายให้คุณแม่ๆ มาเปิดดีลกับเราในราคาพิเศษโดยที่ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องตุนของ เพียงรวบรวมออเดอร์จากทางกรุ๊ปไลน์ ทางเราจะทำการจัดส่งให้ สนใจสามารถติดต่อได้ทาง เฟซบุ๊กเพจบัมบัมได้เลยนะคะ เรา support ให้คุณแม่ full time มีรายได้เล็กๆ น้อยเพิ่มขึ้นค่ะ"

ต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่ตลาดแม่และเด็กต่อเนื่อง

จุดเริ่มต้นจากโฟมล้างก้นเด็กออร์แกนิค จนมาถึงวันนี้ BUM BUM baby organic ได้พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ออกมาต่อเนื่อง ได้แก่ แชมพูและครีมนวดเด็กออร์แกนิค โลชั่นน้ำนมเด็กออร์แกนิค เจลอาบน้ำเด็กออร์แกนิค ซึ่งใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด และเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะทำครีมกันแดดแบบแท่งสำหรับเด็กออกมาวางจำหน่ายอีกด้วย

"จุดแข็งของบัมบัม คือเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราวาง Positioning บัมบัม ค่อนข้าง Niche ไม่ Mass ซึ่งเราไม่ใช่แบรนด์ผลิตภัณฑ์เด็กทั่วไป เราเป็นตัวช่วยทุ่นแรงแม่ๆ ในการเลี้ยงดูลูกที่ดีที่สุด คัดสรรสารสกัดที่ดีที่สุด ผลิตนวัตกรรมดูแลผิวเด็กแบบที่ยังไม่มีในท้องตลาด เพื่อช่วยให้คุณแม่แก้ปัญหาได้ตรงจุด"

เอย บอกว่า จากความตั้งใจแรกของและพี่สาวที่ทำบัมบัม คือ Serve ลูกสาว และพัฒนาสูตร วาง Product Line ประมาณเกือบ 2 ปี ถึงจะเริ่มออกสู่ตลาด ทุกวันนี้เข้าปีที่ 3 แล้ว ลูกสาวคนโต อายุกำลังจะครบ 5 ขวบ ตั้งเป้าว่าจะคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ดูแลลูกสาวของเราไปเรื่อยๆ จนโตเป็นสาว บัมบัมจะเป็นแบรนด์ที่ส่งต่อความรักจากแม่สู่ลูก ให้ลูกได้ใช้ของดี ไม่แพ้ ไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่า เราคิดค้น products ที่มาเติมเต็มความต้องการของลูกและตอบโจทย์คุณแม่จริงๆ เพราะทั้งเอยและพี่สาว เราก็เป็นคุณแม่กันทั้งคู่ ดังนั้นเราอยากให้ลูกๆ เรา และลูกท่านอื่นได้ใช้ของคุณภาพดี ที่เราตั้งใจคัดสรรต่อไป