ไม่พบผลการค้นหา
โดนัลด์ ทรัมป์ชี้ว่า เกาหลีเหนืออาจขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยยกตัวอย่าง 'เวียดนามโมเดล' แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เกาหลีเหนืออาจไม่ยอมปฏิรูปตามแนวทาง 'เวียดนามโมเดล' อย่างที่สหรัฐฯ หวัง

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่า เกาหลีเหนือมีแนวโน้มที่จะมีเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าประเทศอื่นๆ หากเกาหลีเหนือยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมระบุว่า เขาคาดหวังว่า เกาหลีเหนือและสหรัฐฯ จะสานต่อความคืบหน้าที่ได้จากการพบกันครั้งแรกที่สิงคโปร์เมื่อเดือน มิ.ย.ปี 2018 โดยทรัมป์ มีกำหนดการจะไปพบกับคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนืออีกครั้งที่กรุงฮานอยของเวียดนามในวันที่ 27-28 ก.พ.

ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าวออกมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยังคงแสดงท่าทีข่มขู่คุกคามว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อ ขัดกับความเห็นก่อนหน้านี้ของทรัมป์

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ปอมเปโอให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า สหรัฐฯ อาจไม่สามารถตกลงทุกอย่างได้ภายในสัปดาห์นี้ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็หวังว่าจะมีความคืบหน้าที่สำคัญในกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี

เปลี่ยนความสัมพันธ์เกาหลีเหนือด้วย 'เวียดนามโมเดล'

การที่ทรัมป์และคิมจะไปพบกันที่กรุงฮานอยของเวียดนาม ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ เพราะเวียดนามเป็นประเทศที่ปฏิรูปประเทศเปลี่ยนจากศัตรูที่สร้างความทรงจำอันแสนขมขื่นให้กับสหรัฐฯ มาเป็นคู่ค้าภายในเวลาไม่ถึง 50 ปี

สำนักข่าว CNN รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ารัฐบาลนายทรัมป์ต้องการจะขาย 'เวียดนามโมเดล' ให้กับเกาหลีเหนือ โดยเน้นว่า เวียดนามซึ่งเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ ได้ เศรษฐกิจของเวียดนามก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เวียดนามเปิดประเทศรับการลงทุนต่างชาติและปฏิรูปตลาดให้เสรีขึ้น และเกาหลีเหนือก็สามารถเป็นเหมือนเวียดนามได้ เพียงเกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญก็มองว่า เกาหลีเหนืออาจไม่ 'ซื้อ' เวียดนามโมเดล เพราะเกาหลีเหนือรู้อยู่แล้วว่าทุนนิยมและตลาดเสรีเป็นอย่างไร แต่เกาหลีเหนือเลือกที่จะไม่นำมาใช้เอง เพราะหลายปีที่ผ่านมา จีนก็พยายามจะโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือปฏิรูประบบเศรษฐกิจ เคยพาคิมจองอิล อดีตผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ บิดาของคิมจองอึน ไปเดินชมภาคธุรกิจแบบทุนนิยม

อีแวนส์ ริเวอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ในรัฐบาลคลินตันกล่าวว่า ยุทธศาสตร์นี้ไม่ใช่เร่ืองใหม่ เพราะรัฐบาลคลินตันก็เคยพยายามจูงใจให้ปฏิรูปเศรษฐกิจและล้มเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แต่ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น เกาหลีเหนือก็ไม่น่าจะเปลี่ยนใจรัฐบาลทรัมป์

จีน ลี ผู้สื่อข่าวเอพีในเกาหลีเหนือกล่าวว่า เกาหลีเหนือมองว่าประเทศตัวเองเหนือกว่าเวียดนาม และการพบกับทรัมป์ครั้งนี้ คิมจองอึนก็จะกล่าวว่าเกาหลีเหนือและเวียดนามไม่มีอะไรเหมือนกัน และเกาหลีเหนือจะตอกย้ำสถานะของตัวเองที่เป็นประเทศที่สามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้ เพราะจะทำให้เกาหลีเหนือมีอำนาจต่อรองมากกว่าบนโต๊ะเจรจา แทนที่จะยอมจำนนว่าตัวเองเป็นประเทศยากจนประเทศหนึ่ง

ที่มา : BBC, CNN