ไม่พบผลการค้นหา
'ไอซ์-รักชนก' มองปมถูก กกต.แขวน แค่ก้อนกรวดในรองเท้า ขอประชาชนทำใจให้ชิน 'ก้าวไกล' เป็นผู้ชนะ ยังต้องโดนอีกหลายด่าน แต่ขอมั่นใจตั้งรัฐบาลได้แน่นอน

วันที่ 15 มิ.ย. ที่พรรคก้าวไกล รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ ว่าที่ ส.ส. กทม. เขต 28 พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีรายชื่อถูกแขวนจาก กกต. ยังไม่รับรองให้เป็น ส.ส. ว่า เบื้องต้นกำลังรอเอกสารจาก กกต. ส่งมาว่าร้องในหัวข้อไหน เท่าที่ทราบยังอาจไม่ได้รับการรับรอง เพราะมีเรื่องร้องเรียน แต่ก็พร้อมที่จะชี้แจงทุกข้อที่ถูกร้องเรียน และจริงๆ ก็ยังอยู่ในระยะเวลา 60 วันภายในการรับรอง 

"ถ้าไม่มีมูล เรื่องก็อาจถูกปัดตกไป แต่ถ้าเรื่องมีมูลก็อาจจะถูกดำเนินการต่อ ก็ว่ากันไป แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับหนังสือ ในส่วนของพรรคก้าวไกลก็แจ้งมาว่าถ้าเอกสารมาถึงที่บ้านแล้ว ให้แจ้งทางพรรคทันที เพื่อจัดทีมกฎหมายติดตามดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป"

เมื่อถามว่า บุคคลที่ถูกแขวนในขณะนี้มีพรรคก้าวไกล รวมถึงพรรคร่วม จะส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และการขับเคลื่อนของพรรคหรือไม่ รักชนก กล่าวว่า เราเป็นผู้ชนะก็ต้องถูกร้องเรียน แต่ขอรอดูก่อนว่าเป็นเรื่องอะไร และคิดว่าทุกเรื่องชี้แจงได้หมด ถ้าข้อร้องเรียนถูกปัดตกไป สุดท้ายยังอยู่ในระยะเวลา 60 วัน ก็ยังได้รับการรับรอง ก็เข้าสภาโหวตเลือกได้ปกติ 

ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่มีการคาดการณ์ว่าเป็นเรื่องไหน แต่ก็ดูไว้ว่าจะเข้าข่ายหัวข้อใดได้บ้าง และหาเอกสารเตรียมไว้ ยืนยันว่าไม่กังวล เพราะถูกร้อง 71 เขต แต่ก็ขอบคุณที่มีการประท้วงในเขตของตน เมื่อมีเรื่องร้องเรียนก็ต้องชี้แจงไป 

“เรื่องนี้น่าจะเป็นก้อนกรวดเล็กๆ ในรองเท้า คือก้าวไกลหรือผู้สมัครจากก้าวไกลเอง คงต้องเจออะไรอีกเยอะในอนาคต เพราะอย่างที่ทุกคนเห็น ตั้งแต่เราชนะมา ก็งานเข้าไม่หยุด ก็อยากให้ทุกคนทำใจให้ชิน ว่าเมื่อเราเป็นฝ่ายที่ต่อสู้เอาอำนาจกลับมาสู่มือพ่อแม่พี่น้องประชาชน เรื่องเหล่านี้คือเรื่องที่ก้าวไกลต้องเจอ พี่ทิมต้องเจอ ส.ส.ก้าวไกลต้องเจอ เป็นเป็นเรื่องเล็กน้อยมากๆ ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนไม่สบายใจ เพราะยังไงเราจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน" 

รักชนก ย้ำว่า ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งพลังที่เหลือล้นที่ประชาชนส่งมาให้เราได้ อยากให้ทำใจให้ชิน เพราะในอนาคตต้องเจอเรื่องแบบนี้กันอีกเยอะที่จะทำให้ประชาชนไม่สบายใจ แต่ก็อยากให้รู้เอาไว้ว่า ยังไงเรากอดคอต่อสู้ไปด้วยกัน อย่าท้อกับเรื่องอะไรเล็กๆ แบบนี้ อย่าไปให้มันรบกวนรำคาญใจ 

รักชนก ยังบอกด้วยว่า หลังได้รับชัยชนะมนการเลือกตั้ง ก็ลงพื้นที่มาตลอดตั้งแต่ 15 พ.ค. ไม่มีวันไหนที่ไม่หยุดเจอประชาชน เพราะหลังเลือกตั้ง เงินเดือน ส.ส. ถูกจ่ายแล้ว ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนได้ผลประโยชน์สูงสุด คุ้มค่าคุ้มภาษีมากที่สุด ก็ควรจะเริ่มทำงานโดยไม่ต้องรอให้กกต.รับรอง นี่คือการตอบแทนประชาชนที่มอบความไว้วางใจให้เราแบบดีที่สุด 

รักชนก ยังคาดการณ์ว่าเรื่องที่ถูกร้องเรียนน่าจะเป็นเรื่องที่มีผู้ช่วยหาเสียง อาจจะเป็น ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หรือไม่ แต่ทำเอกสารแจ้งไปแล้วว่าเป็นเหตุการณ์ที่เขามาเอง และเขาไม่ใช่ผู้ช่วยหาเสียง หรืออาจจะมีเรื่องอื่นๆ ก็คงต้องไปดูว่าจะเข้าข่ายเรื่องไหน ตอนนี้ได้แต่คาดเดาว่าต้องเตรียมเอกสาร เตรียมคำตอบเรื่องใดไว้ 

“เวลาเครียดจะไปลงพื้นที่ เพราะจะได้รับกำลังใจจากประชาชนอย่างล้นหลามมาก ดีใจมากที่คนรักเรา และฝากความหวังไว้ที่เรามากขนาดนี้ก็ไม่อยากทำให้เขาเสียใจ ไม่อยากทำให้ประชาชนผิดหวัง” รักชนก กล่าว