โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวปราศรัยบนเวทีวันที่ 3 พ.ย. ณ สถานียูเนียนสเตชัน กรุงวอชิงตัน ไม่ไกลจากอาคารรัฐสภาที่ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปในวันที่ 6 ม.ค. 2563 เพื่อขัดขวามผลการเลือกตั้ง
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวถึงอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าการที่ทรัมป์นั้นออกมาประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2563 แสดงให้เห็นว่าอดีตผู้นำเป็นผู้ที่เติมเชื้อไฟให้กับความโกรธแค้น ความเกลียดชัง และความรุนแรง
ไบเดนยังได้กล่าวบนเวทีถึงกรณีที่สามีของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ถูกทำร้ายร่างกายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งไบเดนระบุว่าเป็นผลพวงมาจากคำโกหกหลอกลวงที่เกิดขึ้นมาจากทฤษฎีสมคบคิดและความอาฆาตพยาบาทจากความคิดของทรัมป์ที่เชื่อว่าผลคะแนนของตนถูกขโมยไปในการเลือกตั้งก่อนหน้า
วันที่ 8 พ.ย. 2565 คือวันสำคัญทางการเมองของสหรัฐฯ เนื่องจากจะเป็นการจัดเลือกตั้งกลางเทอมทั่วประเทศ ซึ่งในขณะนี้ โจ ไบเดน กำลังเร่งเดินหน้าหาเสียงอย่างต่อเนื่อง โดยไบเดนเน้นไปที่การตอกย้ำว่า "ประชาธิปไตยกำลังถูกคุกคาม และตกอยู่ในอันตรายจากกลุ่มขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตย"
ในการขึ้นเวทีปราศรัยในวันที่ 3 พ.ย. ไบเดนชี้ว่าชาวอเมริกันต้องช่วยกันออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง และการ "เงียบเฉยไม่แสดงออก เท่ากับการกระทำความผิด"
BBC รายงานว่าความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันที่ลงสมัครเลือกตั้งได้ออกมากล่าวว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง หากพรรครีพับลิกัน "แพ้การเลือกตั้งกลางเทอม"
ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันได้ออกมาโต้กลับไบเดน พร้อมชี้ว่า "ปธน.ไบเดน กำลังสร้างความแบ่งแยกและพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ(จากความล้มเหลวของตน)"
ขณะนี้เหลือเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งกลางเทอม 8 พ.ย. ซึ่งจะเป็นการชี้ชะตาว่าเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากในทั้ง 2 สภาในคองเกรสได้หรือไม่ จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ชี้ว่า พรรครีพับลิกันจะสามารถครองเสียงข้างมากใน 'สภาผู้แทนราษฎร' ได้ ขณะที่ 'วุฒิสภา' ยังไม่มีความชัดเจนนัก