ไม่พบผลการค้นหา
ชื่อ - ชั้น ของ พิชิต ชื่นบาน อาจเป็น “ตัวละคร (ไม่) ลับ” สำหรับในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน แต่เป็นตัวละครสำคัญนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ขาดไม่ได้

ย้อนไปในวันที่มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี “เศรษฐา” นั่งเก้าอี้เป็นประธาน วาระสำคัญคือเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ 

ท่ามกลางข่าวลือก่อนการประชุมว่าจะมีการเลื่อนวาระสำคัญออกไป เนื่องจากนายกฯ กังวลเรื่องข้อกฎหมาย แต่แล้วเมื่อถึงเวลาการประชุมเลขานุการในที่ประชุมก็ขออนุญาตให้ “พิชิต” เข้ามาร่วมประชุมในฐานะ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

พิชิต กลายเป็น “ที่ปรึกษา” ด้านกฎหมายเต็มตัว ประจำทำเนียบรัฐบาล 

เศรษฐา ตำรวจ 5000000.jpg

ก่อนหน้านี้ พิชิต ถูกวางตัวไว้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

แต่ต้อง “ถอนตัว” ในนาทีสุดท้าย

เพราะถูกแรงเสียดทานเรื่อง “คุณสมบัติ” ที่ถูกวิจารณ์จากบางฝ่ายว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากเรื่องราวในอดีตครั้งต่อสู้ที่ดินรัชดา ให้นายกฯ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้หิ้วเงิน จำนวน 2 ล้านบาทเข้าไปในบริเวณศาล 

อย่างไรก็ตาม ตามคำสั่งศาลฎีกา 21 หน้า บันทึกอยู่ในหน้าที่ 6,8,13,14,15,16 และ 17 ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ทั้งคนให้ และคนรับถุงคืนไม่ใช่เขา แต่เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ทีมทนาย และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน้าที่ของทนาย 

สำคัญคือ “พิชิต” ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ จึง “ไม่เข้าลักษณะการเป็นตัวการร่วม” แต่เขาได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ศาลเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่เป็นผลให้ศาลนำเรื่องตัวการร่วมในทางอาญา ตามมาตรา 83 มาฟังว่า “พิชิต” ได้ร่วมกับ นาย ธ. (ผู้ถือถุงเงิน) กระทำละเมิดอำนาจศาล 

แม้เขาถูกจองจำ แต่ก็เป็นฐานความผิด ที่ไม่ใช่ความผิดตามองค์ประกอบความผิด ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 (เรื่องการให้สินบนเจ้าพนักงาน) เขาจึงมีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นรัฐมนตรี

ดังนั้น คนคำนวณไม่สู้ “เศรษฐา” ลิขิต เขาจึงได้กลับคืนสู่ทำเนียบรัฐบาล แม้ไม่ใช่ตำแหน่งรัฐมนตรีก็ตาม แต่นั่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแทน

เศรษฐา พิชิต  31000000.jpg

เมื่อพลิกประวัติของ “พิชิต” ไม่ธรรมดา 

การศึกษาของเขา จบนิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. 2523 

เนติบัณฑิตไทย (สมัยที่ 34) สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา พ.ศ. 2525 ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. 2554

นิติศาสตร์มหาบัณฑิต (กฎหมายมหาชน) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พ.ศ. 2555 ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (PHD) สาขาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พ.ศ. 2561

เขาทำงานต่อสู้คดีและเป็นมือกฎหมายให้กับนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 3 คน หากนับ “เศรษฐา” ด้วยก็จะทำงานให้นายกฯ เป็นคนที่ 4 

นายกฯ คนแรก “ทักษิณ ชินวัตร” ในฐานะทนายความต่อสู้คดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 

นายกฯ คนที่สอง “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” แม้ว่านายกฯ สมชาย จะเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ เพียงไม่กี่เดือน แต่กลับเจอคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่หน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551

โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี,พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542

ต่อมาอัยการยื่นฟ้อง ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ท้ายที่สุด ศาลฎีกาฯ พิพากษาเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2560 พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 4 โดยทีมทนายความของ “พิชิต” ช่วยต่อสู้คดีให้กับ “สมชาย” 

ทษช พรรคไทยรักษาชาติ พิชิต ปรีชาพล _190208_0012.jpg

นายกฯ คนที่สาม “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แม้ตอนนั้น “พิชิต” นั่งเก้าอี้ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

แต่เขาได้ไปช่วยงาน “ยิ่งลักษณ์” เพื่อกลั่นกรองกฎหมายทั้งในทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงกลาโหม เมื่อครั้ง “ยิ่งลักษณ์”​นั่งเก้าอี้ นายกฯ ควบ รมว.กลาโหม และยังเป็นหัวหน้าทีมทนายสู้คดีจำนำข้าวหลังจาก “ยิ่งลักษณ์” พ้นตำแหน่งนายกฯ จากการรัฐประหาร 22 กันยายน 2557 

ยังเคยเป็นประธานที่ปรึกษากฎหมายของ พรรคไทยรักษาชาติ ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่  24 มี.ค. 2562 ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค

แม้จะดูว่าเขาหายหน้าหายตาไปจากการเมือง หลังจากเกิดอุบัติเหตุกับพรรคไทยรักษาชาติ แต่ความจริงแล้ว “พิชิต” ยังไม่ห่างหายไปจากวง “อินไซด์” ของพรรคเพื่อไทย 

การอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลายประเด็นที่พรรคเพื่อไทย หยิบขึ้นมา “ซักฟอก” รัฐมนตรี ในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มี “พิชิต” ช่วยเรียงร้อยข้อมูล อาทิ การทุจริตในกระทรวงพาณิชย์ เรื่องถุงมือยาง 

หลังเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ที่พรรคก้าวไกล ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ยื่นเอ็มโอยู ให้พรรคร่วม 8 พรรค 312 เสียงลงนาม ก็มี “พิชิต” เป็นทีมงานหลังบ้านเพื่อไทย ช่วยพิจารณาข้อความเพื่อไม่ให้ “เสียเปรียบ” เขาไม่เคยห่างหายไปจากพรรคเพื่อไทย

หลังจาก พรรคเพื่อไทย ได้รับไม้ต่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ “เศรษฐา” ได้รับเสียงโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี ชื่อ “พิชิต” จึงอยู่ในโผ ครม.แต่แรก ตามที่นายกฯ คนที่ 30 ให้สัมภาษณ์ 

วันนี้ แม้ “พิชิต” ไม่ได้อยู่ในคณะรัฐมนตรี แต่เขาอยู่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ช่วยประมุขฝ่ายบริหารในการกลั่นกรองงาน - ข้อกฎหมาย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง