วันที่ 5 ม.ค. 2566 วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการสอบสวนข้อเท็จจริง รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีเรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่า ได้รับรายงานจาก จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทส.ว่า กุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ข้อสรุปและเสนอเรื่องไปยังปลัดกระทรวง เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงรัชฎา ซึ่งปลัดกระทรวงได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว
ส่วนการสอบผู้อำนวยการสำนักต่างๆนั้นยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอยู่ ซึ่งกว่าจะเสร็จสิ้นคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ปลัดกระทรวง ทส.ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนั้นแสดงว่า ผลการสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนั้นมีมูลใช่หรือไม่ วราวุธ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นส่อไปในทางมีเหตุผลที่สนับสนุนการตัดสินใจให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ถือเป็นความเห็นของคณะกรรมการที่เสนอขึ้นมา
วราวุธ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 4 มกราคม 66 ที่ผ่านมา ตนได้มอบนโยบายให้กับข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง โดยย้ำถึงความโปร่งใส และความเป็นธรรมในการทำงาน ยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และหากเพื่อนข้าราชการคนใดรู้สึกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือไม่มีความยุติธรรมในการทำงาน หรือมีประเด็นใดให้ส่งคำร้องมาได้ตามช่องทางปกติของกระทรวง หรือส่งจดหมายถึงตนโดยตรง หรือแม้แต่เคยมีคนมาบอกกับตนด้วยตัวเองก็มี เรื่องก็จะได้รับการตรวจสอบและดำเนินการ ในทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น
วราวุธ กล่าวว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงทุกคน ยังมีความเชื่อมั่นในการปฎิบัติหน้าที่ตามระบบของกระทรวง ตนก็ได้ย้ำปลัดกระทรวงและระดับผู้บังคับบัญชา ขอให้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ไปพร้อมกับทุกข์สุขของเพื่อนๆข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน ทุกคนเดินหน้าปฎิบัติหน้าที่ต่อไปภายใต้นโยบายทส.หนึ่งเดียว
วราวุธ กล่าวว่า ส่วนการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นั้น ทางกระทรวงยังไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม แต่หากทางหน่วยงานที่ไต่สวนขอเอกสารใดๆ ทางกระทรวงยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรต้องปกปิด ส่วนขั้นตอนการไต่สวนก็ต้องแล้วแต่หน่วยงานนั้นๆว่ามีขั้นตอนอย่างไร คืบหน้าอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทุกกระทรวงทำการบ้านเตรียมพร้อมในการชี้แจงต่อสภา หลังฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 152 วราวุธ กล่าวว่า ตนและกระทรวง ทส. เตรียมพร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นมา
เมื่อถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่เราต้องนำมาทำการบ้าน ด้วยใช่หรือไม่ วราวุธ กล่าวว่า ถูกต้อง และขอย้ำว่านโยบายการทำงานของตนเองในฐานะ รมว.ทส. ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งจนถึงวันนี้ เน้นทำงานอย่างตรงไปตรงมา ความโปร่งใส ผลงานทุกเรื่องของกระทรวง สามารถจับต้องได้ แน่นอนว่าในการทำงานย่อมมีข้อบกพร่องบ้างและก็ได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ ขอขอบคุณฝ่ายค้าน ซึ่งที่ผ่านมามีการตั้งข้อสังเกต และมีการอภิปรายถึงกระทรวงทส.บ้างในบางครั้ง ก็ต้องขอขอบคุณที่ทำให้เราสามารถไปปรับปรุงการทำงานของเราได้ และในการอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้นนี้ หากจะอภิปรายกรณีกรมอุทยานก็ยินดี เพราะความผิดพลาดหรือสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิด มันเกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันอยู่ที่ว่าเมื่อเกิดปัญหาแล้วเราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร หากฝ่ายค้านมีข้อเสนอแนะให้ดำเนินการอย่างไร ก็อยากรับฟังข้อเสนอแนะของฝ่ายค้านด้วยเช่นกัน เพราะบางครั้งการทำงานนั้น หากมองอยู่ในระบบราชการก็อีกอย่างหนึ่ง มองจากนอกระบบราชการก็เป็นอีกแบบหนึ่