ไม่พบผลการค้นหา
เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 12 นโยบายหลัก ร้อยละ 74.45 เห็นว่าการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์เร่งดำเนินการมากที่สุด ส่วนนโยบายเร่งด่วนที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ แก้ไขปัญหาการดำรงชีวิต เพราะค่าครองชีพไม่สอดคล้องกับรายได้

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาล ต่อรัฐสภา โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ นโยบายหลัก 12 ด้าน ซึ่งจะเป็นทิศทางการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในช่วง 4 ปีข้างหน้า และนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง ที่จะต้องดำเนินการเพื่อบรรเทาปัญหาและลดผลกระทบกับประชาชนและระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน กรณี “นโยบายหลักและนโยบายเร่งด่วน” “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,262 คน ระหว่างวันที่ 24-27 กรกฎาคม 2562 สรุปผลได้ ดังนี้  

 1. “นโยบายหลัก” ในความคิดเห็นของประชาชนที่อยากให้รัฐบาลประยุทธ์ เร่งดำเนินการมากที่สุด อันดับ 1 การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ร้อยละ 74.45 เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทย ทำให้ประเทศมีความมั่นคง สงบสุข สร้างความสามัคคีของคนในชาติ ฯลฯ

อันดับ 2 การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย ร้อยละ 67.97 เพราะจะช่วยให้ประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ นำรายได้เข้าสู่ประเทศ ฯลฯ

อันดับ 3 การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคร้อยละ 65.61 เพราะ เป็นการกระจายรายได้ให้ทั่วถึง สร้างโอกาสและนำความเจริญไปสู่ทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่เฉพาะหัวเมืองใหญ่ ฯลฯ

อันดับ 4 การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และกระบวนการยุติธรรม ร้อยละ 61.69 เพราะการทุจริตเป็นภัยที่ร้ายแรงและสร้างความความเสียหายต่อประเทศ มีให้เห็นทุกยุคทุกสมัย ยังไม่เคยเห็นปราบปรามได้หมดสิ้น ฯลฯ

อันดับ 5 การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ และความสงบสุขของประเทศ ร้อยละ 61.61 เพราะสภาพสังคมปัจจุบันมีภัยอันตรายรอบตัว มีความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน กฎหมายต้องเข้มงวด แก้ไขอย่างจริงจัง ฯลฯ

อันดับ 6 การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานรากร้อยละ 61.43 เพราะความเข้มแข็งของประเทศต้องเริ่มจากชุมชน ต้องพัฒนาท้องถิ่นให้เข็มแข็ง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาบ้านเมืองต่อไป ฯลฯ

อันดับ 7 การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลกร้อยละ 61.30 เพราะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศ สร้างชื่อเสียงให้ทั่วโลกรู้จัก เพิ่มอำนาจในการต่อรอง กระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ฯลฯ

อันดับ 8 การทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมร้อยละ 58.84 เพราะศิลปะและวัฒนธรรมบ่งบอกถึงความเป็นชาติไทย ควรอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และสานต่อ ไม่ถูกวัฒนธรรมต่างชาติครอบงำ ฯลฯ

อันดับ 9 การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัยร้อยละ 57.38 เพราะการศึกษาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาคน ควรเร่งการปฏิรูปการศึกษาให้ทัดเทียมต่างประเทศ มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ฯลฯ 

อันดับ 10 การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคมร้อยละ 55.63 เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง ช่วยให้ประชาชนได้รับสิทธิในการรักษาเท่าเทียมและทั่วถึง ฯลฯ 

อันดับ 11 การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐร้อยละ 53.87 เพราะอยากให้การดำเนินงานมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ แก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น เจ้าหน้าที่ทำงานรวดเร็วขึ้น ฯลฯ

อันดับ 12 การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ร้อยละ 48.21 เพราะสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม มีปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วมเกิดขึ้นทุกปี ควรให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างจริงจัง ฯลฯ

2. “นโยบายเร่งด่วน” ในความคิดเห็นของประชาชนที่อยากให้รัฐบาลประยุทธ์เร่งดำเนินการมากที่สุด  อันดับ 1 การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชนร้อยละ 81.30 เพราะค่าครองชีพสูงขึ้นมาก ไม่สอดคล้องกับรายได้ อยากให้เร่งช่วยเหลือประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ไขปัญหาความยากจน ฯลฯ

อันดับ 2 การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนร้อยละ 66.92 เพราะ ประชาชนควรได้รับสิทธิครอบคลุมตลอดชีวิต ในด้านสุขภาพ การศึกษา สวัสดิการพื้นฐานต่าง ๆ ควรปรับปรุงให้ครอบคลุมทุกด้าน ฯลฯ

อันดับ 3 มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกร้อยละ 61.19 เพราะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ไม่มีเสถียรภาพ ภาคธุรกิจ การค้า การส่งออกได้รับผลกระทบ เกิดปัญหาเงินเฟ้อ ฯลฯ  

อันดับ 4 การแก้ไขปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการประจําร้อยละ 60.41 เพราะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ประเทศไม่พัฒนา อยากให้มีการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจัง เป็นต้นแบบที่ดีให้กับเยาวชน ฯลฯ

อันดับ 5 การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรมร้อยละ 57.28 เพราะเกษตรกรไทยควรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง สินค้าการเกษตรควรมีราคาสูงขึ้น พัฒนาสู่สากล ฯลฯ 

อันดับ 6 การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคตร้อยละ 55.19 เพราะช่วยให้ประเทศพัฒนา เจริญก้าวหน้า ก่อให้เกิดเสถียรภาพและมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ฯลฯ  

อันดับ 7 การจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัยร้อยละ 53.67 เพราะสถานการณ์น่าเป็นห่วง รุนแรงมากขึ้นทุกปี สร้างความเสียหายอย่างมาก สงสารเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ฯลฯ

อันดับ 8 การสนับสนุนให้มีการศึกษา การรับฟังความเห็นของประชาชน และการดําเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญร้อยละ 53.62 เพราะควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีความเป็นประชาธิปไตย กฎหมายต้องเป็นกลาง ไม่เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ฯลฯ  

อันดับ 9 การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ร้อยละ 53.04 เพราะอยากเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ลดการสูญเสีย สร้างความมั่นคงให้กับประเทศ อยากให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากสังคมไทย ฯลฯ 

อันดับ 10 การยกระดับศักยภาพของแรงงานร้อยละ 52.70 เพ���าะปรับขึ้นค่าแรงให้เหมาะสมกับสภาพสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงาน พัฒนาฝีมือให้เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ ฯลฯ

อันดับ 11 การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชนร้อยละ 47.53 เพราะการบริการภาครัฐต้องเป็นระบบ รวดเร็ว เทียบเท่าเอกชน ควรพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ฯลฯ

อันดับ 12 การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ร้อยละ 45.87% เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น คนไทยต้องเรียนรู้และปรับตัวสู่อนาคต ฯลฯ