ที่ตลาดคลองถม อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ ‘แลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น’ โดยมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และใกล้เคียงเข้ามาฟังการปราศรัยอย่างแน่นพื้นที่

โดย ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณที่ไว้วางใจเลือกครอบครัวจันทาทอง มากว่า 30 ปี โดยมีผลงานที่ประจักษ์มากมายตั้งแต่สมัยบิดาของตน ทั้งโครงการประตูเปิด-ปิดระบายน้ำ ณ ห้วยหลวง โครงการโขง ชี มูล สะพานข้ามห้วยหลวงบริเวณไฟฟ้าเก่า และอีกหลายนโยบาย อย่างจุดผ่อนปรนตลาดโพนพิสัย เปิดโดยอดิศร เพียงเกษ ในสมัยไทยรักไทย ทำให้คนหนองคายได้ค้าขายสร้างมูลค่าให้กับการค้าชายแดน

นอกจากนี้ ในช่วงที่มารดาได้เป็น ส.ส.พรรคพลังประชาชน สิ่งที่ทำมาตลอดคือต่อสู้ให้พี่น้องประชาชนริมตลิ่งได้รับตลิ่งตลอดแนวจังหวัดหนองคาย ส่วนตนเองได้เป็น ส.ส. เมื่อปี 2562 อาสามาเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนหนองคาย ร้สึกดีใจที่บิดาได้ร่วมอุดมการณ์ประชาธิปไตย ตัดสินใจอยู่กับพรรคไทยรักไทย มารดาอยู่กับพลังประชาชน จนมาเป็นพรรคเพื่อไทย 

นโยบายต่างๆ ของไทยรักไทย พลังประชาชน จนเป็นพรรคเพื่อไทย ที่พี่น้องชาวจังหวัดหนองคายได้รับประโญชน์ ทั้งโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP การประกาศสงครามกับยาเสพติด และอีกหลายนโยบาย แต่ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยางพารา 5 กิโล 100 บาท สมัยไทยรักไทย กิโลกรัมละ 150 บาท สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กิโลละ 75 บาท 

“ถามว่ายังเอาอยู่ไหม ทุกอย่างแพงทั้งแผ่นดิน ถูกอย่างเดียวคือยาเสพติด รัฐบาลประยุทธ์มอบบทเรียนความเจ็บปวด ข้าวยากหมากแพงให้ ใกล้เลือกตั้งแล้ว เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะสามารถตัดสินใจได้ว่าควรเลือกพรรคใดเป็นรัฐบาล ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย ได้รับการเลือกตั้งยกจังหวัดมาตั้งแต่ปี 2544 ดังนั้นขอฝากหนองคายแลนด์สไลด์ เพื่อไทยเท่านั้น” ชนก กล่าว

ด้าน กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ครอบครัวของตนเป็นพ่อค้า จึงสัมผัสถึงคำว่าเศรษฐกิจดีในยุครัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร เช่นเดียวกับตอนรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ทำให้มีความหวังเรื่องรถไฟความเร็วสูง หากได้สร้าง ประเทศไทยจะมีรถไฟความเร็วสูงตั้งแต่ 3 ปีก่อน และสามารถขายสินค้าเกษตรให้กับคนกว่าพันล้านคนได้อย่างรวดเร็ว

“วันนี้ไม่มีรถไฟความเร็วสูง แต่มีรัฐบาลที่เป็นหนี้ 11 ล้านล้านบาท ในช่วง8 ปีที่ผ่านมา หลังรัฐประหาร ทุกอย่างดูช้าไปหมด พวกเขาบอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน ถามว่ารอได้ไหม ถ้าไม่ได้ อำนาจกำลังจะกลับมาอยู่ในมือของพ่อแม่พี่น้องอีกครั้ง ขอฝากว่านโยบายดีๆ ใครก็พูดได้ แต่พรรคที่ทำได้ทำจริงและทำเป็นคือพรรคเพื่อไทย เราประกาศว่า 600 บาทค่าแรงขั้นต่ำ 25,000 บาทปริญญาตรี คิดว่าเราทำได้ไหมครับ เราบอกว่าสินค้าเกษตรจะมีมูลค่า มีราคาดีขึ้น ค่าใช้จ่ายลดลง จะทำให้เอสเอ็มอีเติบโต เชื่อเราไหมครับ และเหตุผลที่พี่น้องเชื่อเพราะอะไรครับ เพราะที่ผ่านมาเราทำได้และเราจะทำได้อีก ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะพิสูจน์ความเชื่อของพ่อแม่พี่น้องให้ปรากฎ ถ้าอยากให้พรรคเพื่อไทยกลับมาบริหารประเทศ ให้เลือกพรรคเพื่อไทยครับ” กฤษฎากล่าว

โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินไม่ได้ หากเขต 2 หนองคายไม่ชนะเลือกตั้ง เขตนี้มีผู้สมัคร ส.ส.ผู้หญิง 5 คน ขอให้จดจำ ชนก จันทาทอง พรรคเพื่อไทย เท่านั้น พรรคเพื่อไทยคัดเลือกผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่มีความรู้ความสามารถลงทั้งหมด 400 เขต เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะไม่แบ่งใจให้ใคร ตนเชื่อว่าเราจะได้เลือกตั้งบัตรสองใบ ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขอให้พี่น้องประชาชนจดจำหมายเลขผู้สมัครและจดจำโลโก้พรรค เข้าคูหาแล้วกาเพื่อไทย 

“เราทนลำบากมา 8 ปี ถูกปล้นอำนาจไป ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่ประกาศนโยบายจับต้องได้ ประชาธิปไตยกินได้ พร้อมคืนราคายางพาราให้พี่น้องกลับมาลืมตาอ้าปากได้ ตอนนี้เราเริ่มแล้วแม้ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล เราเริ่มแล้วที่สกลนครเพิ่มผลผลิตเป็น 100% นี่คือนโยบายประชาธิปไตยที่กินได้ หรือนโยบาย 1 ครอบครัว 1 soft power เช่น หนองคายมีพ่อบ้านเก่งเรื่องบั้งไฟพญานาค ให้ไปลงทะเบียน 1 คน 1 ครอบครัว สร้าง soft power สร้างงานสร้างรายได้ แปลงโอกาสให้เป็นรายได้ของเรา” นพ.ชลน่านกล่าว

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ได้ถามประชาชนที่มาฟังปราศรัยด้วยว่า ถ้าพี่น้องไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่เอาด้วย

ต่อมา สุทิน คลังแสง ส.ส. จังหวัดมหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กู้มาแล้วแจก หารายได้ไม่เป็น ซ้ำยังขึ้นภาษีทางตรง ทางอ้อม และภาษีทางโค้ง ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน ภาษีทางโค้ง มาจากการประกาศเพิ่มราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องดีที่ราคาเพิ่มขึ้น พี่น้องประชาชนที่ขายที่ดินในหลายจังหวัดจะได้ประโยชน์ แต่ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ จะขายที่ดินให้ใคร เพราะแม้ชาวบ้านประกาศขาย ก็ไม่มีใครซื้อ เพราะราคาซื้อขายขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อผู้ขาย นอกจากนี้ค่าไฟ ยังแพงขึ้น ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบ จากปัจจุบันที่ประชาชนหันไปทางไหนก็มีแต่หนี้ ธกส. หนี้สหกรณ์ และหนี้นอกระบบ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจจะเข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้สินของพี่น้องประชาชน 

ด้าน อดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าในรัฐบาลถัดไปที่มี แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จะพัฒนาโครงการ 30 บาทให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น มีเทเลเมดิซีน หรือระบบแพทย์ทางไกล ให้ผู้ป่วยได้พูดคุยกับหมอ รับยาผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลหรือส่งไปรษณีย์ไปที่บ้านเพื่อความสะดวก นโยบายเพื่อไทยทำได้ ทำจริง และทำสำเร็จมาแล้ว ดังนั้น เลือกตั้งคราวหน้า กาเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรคไม่แบ่งให้ใคร ให้ แพทองธารได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า จังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ของไทย เป็นเมืองหน้าด่านเชื่อมกับประเทศลาวและติดต่อไปยังประเทศจีน ซึ่งกำลังมีระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงครอบคลุมอย่างกว้างขวาง เมื่อประเทศจีนสร้างระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงขยายมายังลาว และเวียดนาม ได้พาสินค้าต่างๆ ขึ้นไปค้าขายกับประเทศจีนซึ่งมีพลเมืองเป็นพันล้านคนอย่างคึกคัก เป็นเมืองที่มีอนาคตทั้งการค้าและการท่องเที่ยว แต่น่าเสียดายที่โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งมีโครงการรถไฟความเร็วสูงถูกรัฐประหารล้มไป รัฐบาลภายหลังการทำรัฐประหารก็สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเหมือนกัน แต่สร้างจากกรุงเทพไปนครราชสีมา ผ่านมา 8 ปียังสร้างไม่เสร็จและไม่รู้จะเสร็จเมื่อใด รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับไม่เคยคิดจะทำอะไร พี่น้องต้องอยู่อย่างยากลำบากหากพลเอกประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ 

ดังนั้น ภารกิจแลนด์สไลด์คือเอาประยุทธ์ออกไป เอาความกินดีอยู่ดีกลับมา เอารถไฟฟ้าความเร็วสูงกลับมา เอาอนาคตชาวหนองคายกลับมา กาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ กาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค

แพทองธาร ยัน ‘เพื่อไทย’พูดแล้วทำ 

ขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวกลางงานปราศรัย ‘แลนสไลด์เพื่อไทยเท่านั้น’ เวทีตลาดคลองถม อําเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ท่ามกลางพี่น้องประชาชนกว่า 2 หมื่นชีวิตแน่นเต็มพื้นที่ 

แพทองธาร กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยเข้าใจปัญหาของพี่น้องชาวหนองคายตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ว่ามีหนี้เพิ่มขึ้น ทางแก้คือเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้เข้ามาแก้ปัญหาที่คาราคาซัง เพราะพรรคเพื่อไทยรู้จักหนองคายดี ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีการวางแผนให้หนองคายเป็นฮับโลจิสติกส์สำคัญ มีรถไฟความเร็วสูง แต่ถูกรัฐประหารไปเสียก่อน 

“แทนที่จะได้รถไฟ เราก็ได้เรือดำน้ำมาแทน” แพทองธารกล่าว พร้อมย้ำว่า ถ้าได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องอีกครั้ง เราจะทำให้นโยบายดีๆ เกิดขึ้น

แพทองธารขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เป็นกำลังใจสำคัญ เพราะตั้งแต่สมัยไทยรักไทย พรรคถูกกลั่นแกล้ง ถูกยุบก็ตั้งขึ้นใหม่ ถูกยุบอีกครั้งแล้วก็สามารถตั้งขึ้นใหม่ เพราะมีแรงใจจากพี่น้องประชาชนสนับสนุนมาโดยตลอด ในการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องการให้พี่น้องเลือกพรรคที่ยืนอยู่ข้างประชาชน ตั้งใจทำให้พี่น้องประชาชนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี กินดีอยู่ดีอีกครั้ง 

“เราจะแก้ปัญหาให้พี่น้องอย่างถาวร ไม่มีหรอกค่ะ การแจกเงิน แก้ปัญหาไปวันๆ” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยกล่าว พร้อมยกตัวอย่าง นโยบายการขึ้นค่าแรง 600 บาท/วัน ที่จะต้องทำให้เศรษฐกิจทั้งระบบดีขึ้นเสียก่อน นโยบายด้านการเกษตรที่จะพัฒนาเทคโนโลยีให้เข้าถึงพี่น้องประชาชน เอามาลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต นำเทคโนโลยีมาเปิดช่องทางการตลาด รวมถึงพร้อมอาสาเป็นเซลส์แมนเอาผลผลิตของการเกษตรไทยไปขายต่างประเทศ 

 “นโยบายดีๆ ใครๆ ก็พูดได้ แต่ถ้าพูดแล้วทำไม่ได้ ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยค่ะ” แพทองธารทิ้งท้าย