นายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและพวกถูกกล่าวหายักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากกองทุนความมั่นคั่งแห่งชาติของมาเลเซียอย่าง 1MDB (1Malaysia Development Bhd) ซึ่งข้อกล่าวหานี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาต้องสูญเสียอำนาจในการเลือกตั้งเมื่อปี 2561 ก่อนจะถูกจับกุมและไต่สวนหลายคดี ซึ่งอดีตนายกฯ มาเลเซียปฏิเสธกระทำผิดในทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม กระบวนการดำเนินคดีต่อนายนาจิบเดินหน้าไปค่อนข้างช้า และล่าสุดการไต่สวนหลักอีกนัดในวันนี้ (12 มี.ค.) ยังถูกเลื่อนอีกเมื่อทีมทนายของเขาไม่สามารถเดินมาขึ้นศาลได้
เว็บไซต์ The Straits Times รายงานว่า บริษัทที่ปรึกษากฎหมายของนายนาจิบได้แจ้งไปยังผู้พิพากษาว่านายมูฮัมหมัด ชาฟี อับดุลเลาะห์ หัวหน้าทีมทนายได้แจ้งจากภรรยาของเขาว่า พี่สะใภ้ของนายมูฮัมหมัด ชาฟี ต้องเข้าตรวจหาเชื้อไวรัสเนื่องจากมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเธอติดเชื้อโควิด-19 โดยพี่สะใภ้คนนี้ได้เดินทางมายังบ้านของนายมูฮัมหมัด ชาฟี เมื่อวันเสาร์ 7 มี.ค. ที่ผ่านมาเพื่อร่วมงานทางศาสนาที่บ้านของเขา
ด้านผู้พิพากษาได้มีคำสั่งให้ทีมทนายส่งจดหมายรับรองทางการแพทย์ต่อศาลเพื่อยืนยันว่า พี่สะใภ้ของนายมูฮัมหมัด ชาฟี ได้เข้ารับการตรวจเชื้อ และนายชาฟีรวมถึงถึงทีมของเขาจำเป็นของลาเพื่อกักตัว ซึ่งผู้พิพากษาระบุว่า หากไม่ได้รับเอกสารเหล่านี้ภายในวันรุ่งขึ้น ก็ไม่เห็นเหตุผลที่ต้องเลื่อนการพิจารณาคดี ขณะเดียวกันมีรายงานว่าเหตุผลดังกล่าวของทีมทนายได้ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ในหมู่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตว่าเป็นข้ออ้างและยุทธวิธีทำให้การไต่สวนล่าช้า
ทั้งนี้ ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วกว่า 126,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 ราย ขณะที่ในมาเลเซียพบผู้ติดเชื้อแล้ว 149 ราย
ที่มา CNA/The Straits Times