วันที่ 23 เม.ย. 2566 ที่ตลาดโอโซนวัน เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทยขนทัพใหญ่ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่กรุงเทพฯ ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน : ดอนเมือง’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 คน นำโดย แพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน พร้อมด้วย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย , นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ, ปวีณา หงสกุล สมาชิกพรรคเพื่อไทย, พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกพรรคเพื่อไทย , นฝจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย, เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย , นลินี ทวีสิน ประธานคณะกรรมการด้านการต่างประเทศ , ปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร ได้แก่ สุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 10 เบอร์ 10 , เอกภาพ หงสกุล ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 11 เบอร์ 1, ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ ผู้สมัครส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 12 เบอร์ 10 , อนุสรณ์ ปั้นทอง ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 9 บางเขน เบอร์ 2
โดย ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะรณรงค์หาเสียง กทม. กล่าวว่าวันนี้พี่น้องเดือดร้อนและต้องการคนที่มาแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เดือนที่ผ่านมาทุกคนพูดถึง ‘ค่าไฟ’ รายจ่ายประชาชนขึ้นยกแผง รวมถึงราคาพลังงานทุกอย่าง ประชาชนไม่รู้จะประหยัดยังไงแล้ว แต่ปัญหาทั้งหมดนี้ ประชาชนกำลังมองไปที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา คาดหวังว่าผู้นำประเทศต้องแก้ไขปัญหาประชาชนได้ แม้กระทั่งช่วงหาเสียงที่ควรเป็นเดือดเป็นร้อน ก็หวังจะได้เห็นนายกฯ เรียกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหา แต่ไม่มี สิ่งที่เห็นคือนายกฯ ลางานไปหาเสียง ถีบเรือเป็ดอยู่ที่สวนลุม
“วันนี้คนที่เป็นนายกฯ ต้องเสียสละ ระหว่างความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน กับ การหาเสียง ผมเชื่อว่าถ้าคนของเพื่อไทยเป็นนายกฯ เราจะไม่มัวแต่หาเสียงแต่เร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน” ดนุพรกล่าวและว่า แต่ถ้าวันนี้รัฐบาลคือเพื่อไทย เราจะไม่เห็นเพื่อไทยมัวแต่หาเสียงแต่จะเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน
ดนุพร ย้ำว่า “เราจะทำให้เห็นว่านายกฯ ที่ดีต้องไม่นั่งบนหัวใคร แต่นั่งบนหัวใจประชาชน นี่คือสิ่งที่ประยุทธ์ไม่มี ไม่มีทางเทียบกับนายกฯ ทักษิณ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ท่านไม่เคยเทียบได้ และจะไม่ได้ตลอดไป” ดนุพรกล่าว
นพ. พรหมินทร์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยมาโดยตลอด เราฝ่าวิกฤติมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย เราผ่านการถูกกระทำมานับไม่ถ้วน แต่ไม่ว่ายังไง เราเข้าใจปัญหาของประชาชน และเราชนะการเลือกตั้งเพื่อไปเป็นรัฐบาล ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อพี่น้องประชาชนได้รับความสุข และอยากเข้าไปแก้ไขปัญหาให้พี่น้อง เรายืนยันว่า เราต้องได้อำนาจรัฐ แก้ปัญหาให้ประชาชน สร้างรายได้ใหม่ และเรากล้าพูดและเราเคยทำมาแล้วสำเร็จไม่รู้กี่ครั้ง
นพ. พรหมินทร์ย่ำว่า สิ่งที่สำคัญของชาวกรุงเทพฯ มี 2 เรื่องใหญ่ หนึ่ง-เราจะทำรถไฟฟ้าให้เดินทางได้ 20 บาทตลอดสาย สอง-พรรคเพื่อไทยมองเห็นปัญหาและเราจะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรคให้ประชาชนได้สะดวกสบาย และสร้างโรงพยาบาลประจำเขตทุกเขต เป็นโรงพยาบาลของรัฐจำนวน 150 เตียงขึ้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน
จาตุรนต์ ปิดท้ายเวทีปราศรัยว่า บางคนพูดว่าพรรคเพื่อไทยสนใจแต่เรื่องปากท้อง ทำไมไม่สนใจประชาธิปไตยโครงสร้างหรือระบบประชาธิปไตยบ้าง นี่คือพูดผิดแน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยให้ความสนใจเรื่องเศรษฐกิจและประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้อง แต่ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับการต่อสู้กับเผด็จการมาทุกยุคทุกสมัยเพื่อให้ได้ประชาธิปไตย เราได้ทำมาและปรากฎชัด พรรคเพื่อไทยทำทั้งสองเรื่องนี้ได้ดีจากนี้ต่อไป ก็จะทำสองเรื่องนี้ คือแก้ทั้งเศรษฐกิจและทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยไปพร้อมกัน เรามั่นใจว่าเราทำได้ไม่แพ้ใครในประเทศนี้
“สิ่งที่จะทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างเป็นรูปธรรม คือเราจะให้ประชาชนลงประชามติ เพื่อตั้ง ส.ส.ร. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และให้ระบุในรัฐธรรมนูญว่าคนทำรัฐประหารเป็นกบฎ และคนทำรัฐประหารไม่สามารถเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ได้ เมื่อเรามีรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย พี่น้องก็จะมีเสรีภาพได้” จาตุรนต์ กล่าว