วันที่ 3 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา สมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวภายหลังประธานรัฐสภามีคำสั่งเลื่อนวาระการประชุมโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป เพื่อรอคำสั่งจากศาลรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า ตนเองจะเสนอความเห็นให้ประธานรัฐสภา สั่งเลื่อนการประชุมทุกวาระออกไปก่อน รวมถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ด้วย เนื่องจากไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องพิจารณา ควรรอคำสั่งของศาลกำหนดในวันที่ 16 ส.ค. นี้ก่อน 

ทั้งนี้ไม่ควรนัดประชุมต่อในวันที่ 17 ส.ค. เพราะจะสุ่มเสี่ยง มองว่าควรทอดเวลาออกไปก่อนเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะหากโหวตนายกฯ ไปแล้วจะเกิดปัญหา หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซ้ำได้ จะทำให้ พิธา เสียสิทธิ ดังนั้นรัฐสภาจึงควรรอให้คำวินิจฉัยของศาลธรรมนูญเสร็จสิ้นก่อน

นอกจากนี้ สมชาย ยังชี้ให้เห็นว่า วาระพิจารณาแก้ไขมาตรา 272 ที่พรรคก้าวไกลเสนอนั้นมีข้อตกลงในการประชุมของวิปสามฝ่ายแล้วว่า ต้องมีการโหวตนายกฯ ให้เสร็จก่อน จึงจะกลับมาพิจารณาแก้ไขมาตรา 272 ได้ ดังนั้นประธานรัฐสภาควรสั่งเลื่อนการประชุมทั้งหมดออกไปก่อน ไม่ใช่เพียงแค่วาระเดียว

ส่วนในวันพรุ่งนี้หากมีการเสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติว่าจะเลื่อนระเบียบวาระหรือไม่ ตนมองว่าจะมีปัญหาซ้ำซ้อนกับญัตติของพรรคเพื่อไทยที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ดังนั้นส่วนตัวแล้วตนอาจจะไม่เข้าร่วมประชุม หรือเข้าร่วมแต่จะขัดค้าน เพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ สมชาย ยังระบุอีกว่า พรรคเพื่อไทยต้องชั่งใจว่า จะเล่นตามเกมพิจารณามาตรา 272 ด้วยหรือไม่ เพราะ หากผ่านวาระที่หนึ่งแล้วอาจจะมีผู้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญคัดค้าน ซึ่งอาจจะเป็นตนเองก็ได้ และจะทำให้กระบวนการทำประชามติหยุดชะงัก ซึ่งความจริงแล้ว สว.ไม่อยากใช้อำนาจหน้าที่เกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่ก็ต้องเดินไปตามกติกา