วันที่ 3 เม.ย. 2566 กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตคลองเตย-วัฒนา กทม.หมายเลข 1 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนลงสมัครส.ส.ครั้งนี้ได้หมายเลข 1 ซึ่งนับเป็นเลขมงคล สานงานเก่าจากผลงานที่มีมากมายให้ชาวคลองเตย-วัฒนา ดังนั้นวันที่14พ.ค.ขอชาวคลองเตย-วัฒนาจดจำหมายเลข  1 และลงคะแนนให้ตนเองกลับไปทำหน้าที่ส.ส.ต่ออีกหนึ่งสมัย เพราะตนพร้อมทำงานทันที ด้วยนโยบายที่ทำได้จริง

กรณิศกล่าวว่า เวลาราว 40 วันที่เหลืออยู่นั้น จะลงพื้นที่ให้ครอบคลุมที่สุดเพื่อพบชาวคลองเตย-วัฒนาในการรับรู้ความต้องการว่าแต่ละพื้นที่นั้นอยากพัฒนาและแก้ไขปัญหาใดเร่งด่วนบ้าง รวมทั้งแนะนำนโยบายพรรคว่าจะช่วยประชาชนได้อย่างไร การบ้านที่ชาวคลองเตย-วัฒนาฝากไว้กับตนนั้น ตนไม่ลืมแน่นอนและช่วงนี้อากาศร้อน ขอแนะนำประชาชนให้ระวังตัวกันด้วยเพราะโรคที่มากับฤดูร้อนมีมาก เช่น ฮีทสโตรก เป็นต้น

กรณิศกล่าวว่า ขอย้ำว่านโยบายพรรคที่พูดเเล้วทำคือ1.รถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งได้มีการวิ่งใช้งานแล้วในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2565 จำนวน 1,250 คัน 77 เส้นทาง และในปี 2566 จะมีรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาอีก 1,850 คัน 45 เส้นทาง รวมทั้งสิ้นจะมีรถเมล์ไฟฟ้า 3,100 คัน 122 เส้นทาง ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 500,000 ตัน 2.ตั๋ว One Day Pass สำหรับค่าโดยสารสาธารณะ รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวันไม่เกิน 50 บาท 5.ราคาค่าโดยสารถไฟฟ้าแต่ละสี เริ่มต้น 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท

ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองเตย-วัฒนา กล่าวว่า ดังนั้นขอให้เชื่อมั่นตนและพรรคภูมิใจไทย  แม้พื้นที่นี้จะมีผู้สมัครส.ส. หลายคนแต่เชื่อว่าผลงานที่ตนลงพื้นที่และทำหน้าที่ในสภาผู้แทนฯในช่วงเกือบ 4 ปีที่ผ่านมานั้น ได้บรรเทาทุกข์ สร้างรอยยิ้มให้ชาวคลองเตย-วัฒนาได้หลายวาระ   แต่สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องเพื่อสุขภาพของคนไทยคือร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด... โดยต้องติดตามและผลักดันร่างกฎหมายนี้ในการประชุมสภาผู้แทนฯชุดใหม่ เพราะร่างกฎหมายนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันและPM2.5 เพราะค่าฝุ่นมลพิษของประเทศไทยติดอันดับเป็นอันตรายลำดับต้น ๆ ของโลก หากยังไม่มีกฎหมายบังคับอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับต้นตอตัวการทำให้เกิดมลพิษเหล่านี้ คนไทยต้องได้เป็นโรคอย่างน้อยคนละหนึ่งโรค อาทิ โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ โรคหอบหืด โรคปอดอักเสบ โรคหลอดเลือดสมอง หรือภาวะเกี่ยวกับการเกิดมะเร็งปอด

ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า   ตนในฐานะอดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ได้ติดตามปัญหาฝุ่นควันมาต่อเนื่องแต่เสียดายที่ร่างกฎหมายนี้ไม่สำเร็จแต่เชื่อว่าหากเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนฯครั้งหน้า ตนจะได้รับโอกาสกลับไปทำหน้าที่ส.ส.เพื่อช่วยผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุดควบคู่กับนโยบายพรรคที่พูดแล้วทำ ตนขอฝากชาวคลองเตย-วัฒนาลงคะแนนให้ตนและพรรคเพื่อไปทำหน้าที่ส.ส.และแกนนำรัฐบาลด้วย