คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดหนองคายว่า ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยแม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่อดีต ส.ส.ที่เป็นคนรุ่นเก่าได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ลงสมัครเลือกตั้ง แม้แต่ละคนจะมีอายุน้อยแต่ประสบการณ์การทำงานถือว่ามีมาก ที่ผ่านมาได้เคยนำเอาสินค้าของจังหวัดหนองคายไปสู่สายตาชาวโลกมาแล้ว

ขณะเดียวกัน จังหวัดหนองคายมีจุดเด่นคือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวและมีสินค้าเกษตร จังหวัดหนองคายมีศักยภาพในการทำการท่องเที่ยวเชิงชุมชน สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนในแต่ละหมู่บ้านได้ จึงอยากขอโอกาสให้ผู้สมัครคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาทำงานให้กับประชาชนชาวจังหวัดหนองคาย

ส่วนกรณีทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ตรวจสอบกรณีคลิปที่ประชาชนจังหวัดยโสธรอ้างว่าพรรคพลังประชารัฐ ให้ประชาชนสมัครสมาชิกพร้อมแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐควบคู่ไปด้วยว่า อยากจะเรียกร้องให้ กกต.ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะหลายปัญหารวมถึงปัญหาเศรษฐกิจหากจะแก้ไขได้อยู่ที่การเลือกตั้ง วันนี้จึงต้องฝากความหวังไว้ที่ กกต. ขณะเดียวกันยังเห็นว่าทุกวันนี้ยังมีการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้งอยู่มาก การแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่ปรากฏในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน

โดยก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้เคยยื่นร้องต่อ กกต.แล้วเกี่ยวกับปัญหานี้ ขณะเดียวกันรัฐบาลยังอนุมัติงบประมาณและแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ และพบว่าข้าราชการบางส่วนยอมที่จะก้มหัวให้กับอำนาจของรัฐ โดยไม่ได้มองเรื่องไหนถูกหรือผิด ทำให้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครบางพรรคการเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้แล้วและจะเตรียมยื่นให้กับกกต.ต่อไป

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งที่ปราศจากการซื้อเสียง หรือการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่มีผลกระทบต่อพรรคการเมืองบางพรรคเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองทุกพรรค ในการเลือกตั้งครั้งนี้จึงฝากความหวังไว้ที่ กกต.ต่อชุดนี้ว่าจะทำหน้าที่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี และไม่เกรงกลัวอำนาจใดๆ

ส่วนกรณีที่พลเอกประยุทธ์ประกาศขู่หากพรรคการเมืองไหนอ้างชื่อหรือนโยบายของรัฐบาลในการหาเสียงเลือกตั้งจะลงโทษจะเอาผิดนั้น ตนเห็นว่าหากพลเอกประยุทธ์จะทำตามที่พูดไว้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะขณะนี้เห็นว่ามีแกนนำที่เป็นรัฐมนตรียังขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย และอ้างว่าจะเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ รวมถึงเอานโยบายของรัฐบาลทั้งหมด รวมถึงมีการแจกเงินอนุมัติงบต่างๆ อยู่ตลอด และก็ชูเรื่องนี้ในการหาเสียง 

ดังนั้นหากรัฐมนตรีสี่คนลาออก กระแสกดดันจะไม่ตกอยู่แค่รัฐมนตรีทั้งสี่คน แต่จิตสำนึกก็จะต้องขึ้นอยู่ที่พลเอกประยุทธ์ ถือว่าเป็นกรรมการกลางและจะลงแข่งขัน การเลือกตั้งจะมีความเหมาะสมหรือไม่ ตนเองจะไปบังคับหรือตอบแทนใครไม่ได้ ขณะเดียวกันยังขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะมองต่อกรณีนี้ ว่าจะอยู่กับสี่ปีที่ล้าหลังหรือกับอนาคตที่ดีกว่า

พร้อมกันนี้ยังเห็นว่ารัฐมนตรีทั้งสี่คนควรวางตัวให้เหมาะสมไม่ขึ้นปราศรัยหาเสียงให้พรรคการเมืองนั้น เห็นว่าการคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมาย เพราะที่ผ่านมาประเทศอยู่ในสภาพของเศรษฐกิจตกต่ำมา 4-5 ปีแล้ว การจัดการเลือกตั้งที่ปราศจากการซื้อเสียงและอำนาจรัฐจึงเป็นธรรมต่อทุกพรรคการเมือง ขณะเดียวกันยังเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้กับคนที่จ้องจะเอาเปรียบ หรือคนที่อยากจะกลับสู่อำนาจ เห็นได้ชัดว่ามีการวางโรดแมปสืบทอดอำนาจต่อตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันนี้ 

ส่วนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปยื่นหนังสือต่อ กกต.ให้ตรวจสอบสถานะความเป็นสมาชิกของนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังยืนยันว่าจะต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งพรรคเพื่อไทยขอให้ทำตามกฎหมายและมาตรฐาน จะตรวจสอบขัดกับความรู้สึกของประชาชนไม่ได้ และควรตรวจสอบผิดให้เป็นผิดถูกให้เป็นถูกซึ่งผลดีจะตกอยู่ที่ประเทศ 

ส่วนการตรวจสอบและเอาผิดพรรคพลังประชารัฐจะกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ขอออกความเห็นแต่ย้ำว่า กกต.ควรทำหน้าที่อย่างโปร่งและตรงไปตรงมา