สองพี่น้อง นักร้องลูกทุ่งสายเลือดใหม่ 'เจนนี่-รัชนก สุวรรณเกตุ' วัย 25 ปี ที่โด่งดังจากเพลงที่เธอแต่งเอง ร้องเอง "ได้หมดถ้าสดชื่น" เมื่อ 3 ปีก่อน จนส่งน้องสาว 'ลิลลี่-นารีนาถ เชื้อแหลม' วัย 15 ปี ให้โด่งดังอีกคนในเพลง "เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว"
ก่อนหน้าที่จะโด่งดัง ชีวิตของครอบครัวนี้ไม่สวยหรูนัก ต้องทำงานหาเงินอย่างยากลำบาก ทั้งสามแม่ลูก เนื่องจากคุณแม่เป็นหนี้นอกระบบ จนไม่กี่ปีที่ผ่านมาสองพี่น้องสามารถทำรายได้จากเพลงดัง และใช้หนี้ให้ครอบครัวได้สำเร็จ กระทั่งล่าสุดเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เจนนี่ ได้เผยถึงอาการป่วยของคุณแม่เกตุ พบว่า ตอนนี้คุณแม่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ล่าสุด (18 ม.ค.) เจนนี่ และ ลิลลี่ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงอาการป่วยของคุณแม่ โดยเจนนี่เผยว่า การรักษาโรคมะเร็งของคุณแม่ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการให้คีโมครั้งที่ 2 ซึ่งต้องรอผลอีก 3-4 เดือน แต่ในส่วนของกำลังใจก็พยายามไปเยี่ยมคุณแม่ทุกครั้งที่มากรุงเทพฯ เท่าที่จะทำได้ แต่หากไม่ว่างก็จะคุยวิดีโอคอลกับคุณแม่ วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 รอบ เพราะอยากให้ท่านรู้สึกว่ายังอยู่ใกล้กันเสมอ
นักร้องสาวเผยว่า ตอนแรกที่ทราบว่าคุณแม่เป็นมะเร็งก็รู้สึกช็อก เพราะตั้งแต่เด็กก็รู้มาว่าโรคมะเร็งรักษาหายยาก แต่ตอนนี้จะช็อกไม่ได้แล้ว ต้องรีบตั้งสติและเป็นกำลังใจให้คุณแม่ แต่เรื่องที่หนักที่สุดของเธอคือการไปไหนมาไหนโดยไม่มีคุณแม่ เวลาที่มีใครด่า หรือต่อว่า ก็จะมีคุณแม่คอยปกป้อง ซึ่งวันนี้เธอต้องกลายเป็นคนที่ปกป้องตัวเอง และน้องสาวอีกทีหนึ่ง แต่ก็พยายามไม่เศร้าให้คุณแม่เห็น เพราะต้องการเป็นกำลังใจให้ท่าน ซึ่งเจนนี่ยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางให้คุณแม่หายป่วย
ก่อนหน้านี้ครอบครัวของเธอต้องต่อสู้มาตลอด จากปัญหาหนี้สิน ซึ่งเจนนี่เผยว่า หลังจากที่คุณแม่ทราบว่าเป็นมะเร็งก็รู้สึกเสียใจ เพราะเพิ่งเป็นไท ใช้หนี้ทั้งหมดได้ไม่นาน และมีโอกาสได้จับเงินแสน เงินล้าน เป็นครั้งแรก แต่ก็ต้องมาป่วย ซึ่งสองพี่น้อง ก็พยายามให้กำลังใจคุณแม่ และดูแลท่านให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ถ้าวันนี้ต้องกลับไปเป็นแม่ค้าขายรองเท้าเหมือนเดิม แต่ยังมีแม่อยู่ข้างๆ แม่ไม่เป็นอะไร มันก็ยังดีกว่าที่จะต้องสูญเสีย แต่มันก็ไม่มีอะไรแลกกันได้อยู่แล้ว แต่ยังไงหนูก็ยังอยากให้มีสามคนแม่ลูกอยู่ด้วยกัน นานเท่าที่จะมีได้" เจนนี่ - ลิลลี่ ระบุ
สานฝันสำเร็จ มีค่ายเพลง 'เลิกคุยทั้งอำเภอ' ของตัวเอง
แม้จะต้องคอยเป็นหลักให้ครอบครัว เนื่องจากคุณแม่ป่วย แต่เจนนี่ ก็มีกำลังใจที่ดี เนื่องจากล่าสุด เธอสามารถสานฝันของตัวเองสำเร็จ ก่อตั้งค่ายเพลงเป็นของตัวเอง ภายใต้ชื่อ บริษัท เลิกคุยทั้งอำเภอ จำกัด เพื่อหาเลี้ยงชีพ ตั้งใจจะกอบโกยงานและเงินให้ได้มากที่สุด ในตอนที่ยังมีกำลัง โดย เจนนี่ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การที่มีค่ายเพลงเป็นของตัวเอง เป็นเรื่องที่ภูมิใจที่สุดในชีวิตแล้ว เพราะต่อให้วันหนึ่งที่ไม่ได้ทำงานเบื้องหน้า ก็ยังทำงานเบื้องหลังได้ และมั่นใจว่าสามารถสร้างศิลปินใต้ได้อีกหลายๆ คน เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ได้ปั้นน้องสาวตัวเองมาแล้ว
ความตั้งใจของเจนนี่กับค่ายเพลงนี้ เธอบอกว่า อยากจะให้มีศิลปินเยอะๆ ประมาณ 40-50 คน ส่วนเพลงก็จะไม่ซื้อจากข้างนอกเลย จะสอนให้น้องๆ ในค่ายแต่งเพลงเอง สอนให้ลิลลี่แต่งเพลงได้ เล่นดนตรีได้ ซึ่งจะทำให้สมบูรณ์แบบที่สุด ขณะที่การคัดเลือกศิลปิน เจนนี่บอกว่า เธอเป็นคนเลือกเองทั้งหมด ก่อนหน้านี้มีการเปิดออดิชั่น มีคนสมัครเข้ามากว่า 1,000 คน และเลือกมาได้ 2 คน ซึ่ง 2 คนที่เลือกเป็นคนที่ไม่ได้เก่งอยู่แล้ว เพราะว่าอยากให้เขาเปิดรับในสิ่งที่เราจะให้ได้ ศิลปิน 2 คนที่ว่านี้เป็นผู้ชาย มาจากนครสวรรค์และชุมพร ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ถือว่ามีความดังอยู่ในภาคใต้ ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง
นักร้องสาวระบุว่า การทำงานกับค่ายของเธอ ไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ เพราะไม่อยากจะผูกมัดใคร เนื่องจากตัวเธอเองยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ยังเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ แต่สิ่งหนึ่งที่น้องๆ ที่มาอยู่ในค่ายต้องมี คือต้องมาด้วยใจ และตั้งใจทำงานให้เยอะที่สุด เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เยอะที่สุด และถ้าวันหนึ่งอยากจะไปข้างนอก หรือทำอะไรด้วยตัวเองก็โอเค
ขณะที่ลิลลี่ น้องสาวซึ่งถือเป็นศิลปินคนแรกของค่าย เผยว่ารู้สึกภูมิใจในตัวพี่สาว เพราะว่าเห็นความตั้งใจของพี่สาว และเป็นความฝันมาตั้งนานแล้ว พอวันหนึ่งประสบความสำเร็จ รวมถึงจะได้เปิดค่ายเพลงใหม่ก็ทำให้รู้สึกดีใจมาก
ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่สองพี่น้องลูกทุ่งสายเลือดใหม่ ทำงานหาเงิน และเป็นที่รู้จักผ่านเพลงดัง ทั้งคู่เผยว่า ตอนนี้เงินเก็บของลิลลี่ ซึ่งเป็นน้องสาว น่าจะมากกว่าเจนนี่ เพราะว่าน้องแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ทำงานแล้วก็เก็บอย่างเดียว ส่วนเจนนี่ ที่เป็นพี่สาวก็จะคอยดูแล และแบ่งให้น้องใช้ในส่วนที่จำเป็น ซึ่งจะเก็บแยกบัญชีไว้อยู่แล้ว ส่วนจำนวนเงินมากน้อยเท่าไหร่ก็ขอไม่เปิดเผย แต่ถ้าด้วยอายุเพียง 15 ปี เทียบกับจำนวนเงินเก็บของลิลลี่ ก็ถือว่าเยอะพอสมควร
เจนนี่บอกว่า ตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ต้องเก็บเงินให้ได้เยอะที่สุด เพราะไม่รู้ว่าอนาคตยังจะดังอยู่หรือเปล่า ตอนนี้ก็ต้องรีบโกย ทำงานเยอะมาก