วันที่ 17 ส.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา วทันยา บุนนาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากได้ยื่นหนังสือลาออกต่อ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยระบุว่า ถือเป็นการยุติบทบาทการเป็น ส.ส. ของตนอย่างเป็นทางการ ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน ตลอด 3 ปีที่ทำหน้าที่มา ถือเป็นประสบการณ์สำคัญที่จะเก็บไว้พัฒนาตัวเองต่อในอนาคต และ ชวน ในฐานะประธานรัฐสภา ยังได้ให้โอวาทว่า อย่าเพิ่งหมดหวังกับสภา เพราะสภายังคงมีศรัทธาและพึ่งพิงได้เสมอ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สภา แต่อยู่ที่พฤติกรรมของแต่ละบุคคล
สำหรับสาเหตุในการลาออกนั้น วทันยา ระบุว่า ได้ชี้แจงไปตามที่โพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา สิ่งที่โพสต์เป็นความรู้สึกจากใจทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก่อนตัดสินใจลาออกเมื่อ 16 ส.ค.
ส่วนที่ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ตั้งข้อสังเกตว่า ตนอาจจะไม่ได้ออกเพราะเรื่องสภาล่ม วทันยา กล่าวว่า ตนเคารพความแตกต่างของบุคคล แต่การที่ ชัยวุฒิ เอานิสัยที่คุ้นชินของตนเองมาตัดสินบุคคลอื่น มองว่าอาจจะไม่ใช่ การที่สภาล่มซ้ำซากเพราะการเล่นเกมการเมือง ตนคิดว่า ส.ส. ที่อยู่ในสภาก็รับรู้ ว่าเป็นเพราะต้องการให้กฎหมายถูกปัดตกลงไป
“ถ้าจะบอกว่าการเล่นเกมของนักการเมืองจนทำให้สภาเสื่อมเสีย เป็นเหตุผลที่ไม่เพียงพอต่อการลาออก ก็หมายความว่า ชัยวุฒิ สามารถยอมรับเกมการเมืองที่ไม่ได้สนใจผลประโยชน์ของประชาชนใช่หรือไม่ ไม่รู้ว่ารัฐมนตรีมีมาตรฐานในการทำงานอย่างไร แต่ส่วนตัวเชื่อว่ามาตรฐานของตนเองสูงกว่านั้น”
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าเหตุสภาล่มเป็นเพราะผู้มีอิทธิพลในพรรคสั่งการมา วทันยา ยืนยันว่า ตนไม่เคยได้รับโทรศัพท์สั่งการจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือผู้บริหารคนใดเลย แต่สำหรับ ส.ส. คนอื่นจะโดนสั่งการมาหรือไม่ ตนไม่สามารถยืนยันได้ โดยส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 500 อยู่แล้ว เนื่องจากไม่สอดคล้องกับหลักการของบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่ยืนยันว่าใช้วิธีต่อสู้กันในสภา
ต่อข้อถามว่ามีโอกาสไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ วทันยา ระบุว่า ต้องขอบคุณ พนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่กรุณาทาบทามและพร้อมต้อนรับ แต่เมื่อวานก็มีผู้ใหญ่หลายท่านจากพรรคการเมืองต่างๆ ที่ติดต่อมา ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ ยื่นไมตรี และเห็นคุณค่าของตน แต่ตามที่ได้ยืนยันว่า การตัดสินใจนี้ค่อนข้างกะทันหัน ดังนั้น ตนขอถือโอกาสถอยมาจากการเป็นนักการเมือง มาเป็นประชาชนที่อยู่ข้างนอก และขอใช้เวลาจัดการภารกิจส่วนตัวก่อน โดยไม่สามารถตอบได้ว่านานแค่ไหน
ทั้งนี้ วทันยา ยังยอมรับว่ามีพรรคการเมืองจากฝ่ายค้านทาบทามมาเช่นกัน แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีกี่พรรคหรือเป็นพรรคใดบ้าง ส่วนในอนาคตจะมีโอกาสเปลี่ยนขั้วมาอยู่ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านหรือไม่นั้น วทันยา ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปได้
เมื่อถามว่ามีโอกาสจะกลับมาสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่ วทันยา กล่าวว่า เรามาถึงจุดนี้แล้ว เป็นโอกาสดีที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ ตนเห็นว่าการเมืองไทยยังสามารถพัฒนาต่อไปข้างหน้าได้ ขณะเดียวกันก็มองเห็นความเป็นไปได้ที่จะผลักดันหลายปัญหาให้ดีขึ้น จึงคิดว่าไม่ควรหายไปกลางคัน แต่ตั้งใจจะกลับมาผลักดันจนกว่าจะเกิดความสำเร็จ
“การลาออกเป็นเคริ่องบ่งชี้ว่า การเล่นเกมการเมืองโดยไม่ฟังเสียงของประชาชน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และยอมรับไม่ได้ หวังว่าการลาออกครั้งนี้จะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า การไปถึงจุดหมายด้วยวิธีการผิดๆ ไม่ใช่เรื่องดี”
วทันยา ยังระบุว่า ได้กราบเรียน พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อในช่วงเช้าวันนี้ โดยหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้อวยพรขอให้โชคดี และระบุว่ารับทราบในการตัดสินใจของตน พร้อมเผยว่า เป็นการตัดสินใจแบบกะทันหัน ไม่ได้ปรึกษาพูดคุยกับสมาชิกพรรคคนใด รวมไปถึงอดีต ส.ส.ในกลุ่มดาวฤกษ์ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการลาออกเพราะปัญหาความขัดแย้งกันในพรรค เพราะหากเป็นเช่นนั้น พรรคพลังประชารัฐคงได้ขึ้นหน้าหนึ่งกันทุกวันแน่