กลุ่มคนอยากเลือกตั้งชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ภายใต้ชื่อ 'ไม่เลื่อน-ไม่ล้ม-ไม่ต่อเวลา' เพื่อแสดงออกคัดค้านการเลื่อนเลือกตั้งจากวันที่ 24 ก.พ. ไปยังเดือน มี.ค. ที่ยังไม่มีความชัดเจนเนื่องจากพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) การเลือกตั้ง ในความรับผิดชอบของรัฐบาลคสช.ยังไม่ประกาศ ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่อาจกำหนดวันเลือกตั้งได้
กลุ่มคนอยากเลือกตั้งรวมตัวกันตั้งแต่เวลาก่อน 16.00 น. ณ บริเวณหัวมุมแยกราชประสงค์ หน้าห้างสรรพสินค้าเกษรพลาซ่า โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 500 คน โดยภายในการจัดกิจกรรม ทางกลุ่มได้มีการแขวนพวงหรีดที่เขียนว่า สนช. กกต. คสช. ครม. สปช. กรธ. โดยได้แขวนติดไว้กับป้ายแยกราชประสงค์ของกทม.
โดยแกนนำที่เข้าร่วมได้แก่ นางสาวณัฏฐา มหัทธนา และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ โดยก่อนที่ทั้งสองจะอ่านแถลงการณ์ นางสาวณัฏฐาได้เจรจากับจนท. ตำรวจในพื้นที่เพื่อขอใช้เครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ที่เตรียมมา โดยกล่าวว่าทางกลุ่มเจรจากับสน. ลุมพินี สน. ปทุมวัน และจนท. เขตดังกล่าวแล้ว ระหว่างเจรจา ตำรวจพยายามจะยกขยายเสียงไป ฝูงชนได้โห่ร้องขึ้น โดย นางสาวณัฏฐา ได้กล่าวผ่านโทรโข่งให้ทุกคนอยู่ในความสงบ โดยกล่าวว่าการใช้เสียงของเราไม่ผิด พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ โดยเสียงไม่ดังเกินที่กำหนด และอยู่ในช่วงเวลาที่อนุญาตคือ 5 โมงเย็นถึงสองทุ่ม
ต่อจากนั้น กิจกรรมดำเนินต่อโดยใช้เครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ได้ เริ่มด้วยกิจกรรม “ไว้อาลัยการเลือกตั้ง 24 ก.พ.” โดยนางสาวณัฏฐากล่าวว่าทางกลุ่มได้รอความชัดเจนของพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. โดยรัฐบาลมีแต่ความคลุมเครือ วันนี้จึงแสดงความไว้อาลัยด้วยพวงหรีดต่อการเลื่อนการเลือกตั้งครั้งที่ห้า โดยผู้เข้าชุมนุมตะโกนพร้อมกันว่า “มาด้วยใจไม่ใช่ใบสั่ง” ด้วย
การชุมนุมในวันนี้ เป็นการชุมนุมรอบที่สามแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยในวันเดียวกันนี้ประชาชนในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย นัดหมายชุมนุมคัดค้านการเลื่อนเลือกตั้งในวันเวลาเดียวกันด้วย เช่น กทม.ฝั่งธนบุรี ที่วงเวียนใหญ่ จ.อุบลราชธานี ที่ทุ่งศรีเมือง และจ.นครปฐม ที่ตลาดโต้รุ่ง องค์พระปฐมเจดีย์
สำหรับแถลงการณ์กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เรื่อง 'ไม่เลื่อน ไม่ล้ม ไม่ต่อเวลา' โดยยื่นคำขาดต่อรัฐบาล คสช. 3 ประการ ประกอบไปด้วย
1. “ไม่เลื่อน” วันเลือกตั้งให้ล่วงเลยหลัง 10 มีนาคม 2562 เพราะจะสุ่มเสี่ยงให้กกต.ไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งภายในกรอบ 150 วัน นับจากวันมีผลบังคับใช้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 11 ธันวาคม 2561 อันอาจส่งผลทำให้การเลือกตั้งนั้นถูกชี้ว่าขัดรัฐธรรมนูญ และกลายเป็นโมฆะ
2. “ไม่ล้ม” การเลือกตั้งด้วยเล่ห์กลหรือข้ออ้าง รวมถึงเทคนิคทางกฎหมายใดๆ ทั้งที่มีความพยายามทำอยู่ในวันนี้ และที่จะมีขึ้นในอนาคต
3. “ไม่ต่อเวลา” ให้กับการดำรงอยู่ในอำนาจของตนเอง ผ่านกลไกตามรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความได้เปรียบ ไม่ว่าจะในรูปของการใช้เสียงของสว. 250 คน จากการแต่งตั้งมาสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ใช้ความเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการใช้งบประมาณและโยกย้ายข้าราชการอย่างไร้การตรวจสอบระหว่างช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงการเลือกปฏิบัติเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ซึ่งล้วนแล้วแต่ถือเป็นการโกงการเลือกตั้งทั้งสิ้น
อย่างไรก็ดี ภายในวันศุกร์ที่ 18 มกราคม หากยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาในราชกิจจานุเบกษา เพื่อเปิดทางให้กกต.กำหนดวันเลือกตั้งได้ เราจะถือว่ารัฐบาลคสช. ได้แสดงออกอย่างชัดเจนที่สุดถึงความไม่จริงใจในการคืนอำนาจให้ประชาชน และพวกเราจะยกระดับการชุมนุมสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพมหานคร ในวันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2562 เวลา 17.00 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :