นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจำวันพุธที่ 29 เมษายน 2563 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย ยอดจำนวนผู้ป่วยสะสม 2,947 ราย หายแล้ว 2,665 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 228 ราย และ ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มรวมเสียชีวิต 54 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานกลุ่ม 20-29 ปี
ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 รายมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 6 รายและไม่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยเย็นก่อนหน้านี้ 2 ราย โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ และอยู่ระหว่างสอบสวนโรคอีก 1 ราย แบ่งเป็นพื้นที่ กรุงเทพฯ 3 ราย สมุทรปราการ 2 รายและภูเก็ต 4 ราย
จากการวิเคราะห์กลุ่มผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 0 - 14 ปีตั้งแต่เดือนมกราคมถึง 26 เมษายนพบผู้ติดเชื้อจำนวน 88 ราย โดยไม่พบผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว โดยมีปัจจัยเสี่ยงคือสัมผัส ผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ 76 ราย มีประวัติเดินทางกลับจากต่างประเทศ 3 ราย มีประวัติเดินทางไปยังสถานที่อัด 3 ราย และไม่พบข้อมูล 6 ราย ซึ่งศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยระบุว่า การติดเชื้อจะไม่แพร่กระจายผ่านน้ำนมหากแม่ป่วย สามารถให้นมได้แต่ต้องป้องกัน
ทั้งนี้จากการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 22.00 - 4.00 น. พบผู้กระทำความผิดออกนอกเคหสถาน 589 ราย และดำเนินคดี 510 ราย ความผิดฐานมั่วสุม 79 รายโดยเป็นการดำเนินคดีทั้งหมด พบ 12 จังหวัดไม่พบผู้กระทำความผิดได้แก่สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา สระแก้ว หนองบัวลำภู พะเยา ยโสธร นครพนม มหาสารคาม ลำปาง พิจิตรสุโขทัย อุทัยธานี
ส่วนกรณีการขยายเวลางดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันที่ 3 พ.ค หมายความว่าวันที่ 1-2 พ.ค. จะอนุญาตให้ขายแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเป็นอย่างนั้นซึ่งตนได้ตรวจสอบกับการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้ยังมีการพูดคุยหารือกันอยู่ ซึ่งประกาศงดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของแต่ละพื้นที่จังหวัด คำสั่งดังกล่าวโดยกระทรวงมหาดไทยคงเป็นคำสั่งของท้องถิ่น ซึ่งตนได้รับทราบว่ามีเอกสารที่ทำปลัดกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่ง
มีเนื้อความประมาณว่า คำสั่งที่นายกรัฐมนตรีประกาศให้มีการบังคับใช้กฎหมายและข้อกำหนดคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดการประกาศตามพ.ร.ก. ฉุกเฉิน ให้มีผลบังคับใช้ จนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น และให้จังหวัดรอการจัดการเชิงนโยบาย จากศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด - 19 ก่อนเพื่อให้เกิดเอกภาพพร้อมกันทั่วประเทศและมีข้อกฎหมายรองรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติต่อไป
ทั้งนี้นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า ขอให้ประชาชนรอฟังคำชี้แจงในประเด็นต่างๆ จากทางศูนย์ศบค.เท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกิจการใครปฏิบัติตามหลักกระทรวงสาธารณสุข ส่วนผู้ที่จะมาใช้บริการก็มีการปรับให้เข้ากับผู้ที่จะให้บริการเช่นเดียวกัน เพราะไม่เช่นนั้นสิ่งที่ผู้บริการเตรียมไว้ให้ จะไม่ประสบความสำเร็จ การปรับตัวตามวิถีชีวิตแบบใหม่จึงทำให้ห่างไกลจากการแพร่ระบาดของเชื้อ
ส่วนจะสามารถวัดไข้จากบริเวณข้อมือ เหมือนในต่างประเทศได้หรือไม่ นายแพทย์ทวีศิลป์ได้อธิบายว่าในส่วนปลายมือนั้นมีเส้นเลือดขนาดเล็ก เมื่ออยู่ในที่เย็นจะพบว่าบริเวณปลายมือจะมีความเย็น การตรวจดังกล่าวจึงทำให้ไม่เจอผู้ป่วยที่มีอุณหภูมิเป็นไข้ การตรวจที่บริเวณลำตัวหรือศีรษะจึงจะทราบข้อมูลที่ดีที่สุด
โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนจะเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยว่า คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีการท่าอากาศยานห้ามบินเข้าประเทศไทยเป็นการชั่วคราว มีการขยายเวลาออกไปจากสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ถึง 31 พ.ค.