ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' แจงประกาศตัวเป็นนายกฯสมัยหน้า เป็นกลยุทธ์หาเสียง ปัดตอบตั้งเป้าพรรคอับดับ 1 ขอให้ดูผลวันเลือกตั้ง รับคุย 'พุทธิพงษ์' จริง หากดีลลงตัว ภท.หวังแก้จุดอ่อน ส.ส.กทม. ปัดกระแสข่าวดีลบ้านใหญ่นครปฐม ปฏิเสธพร้อมเป็นนายกฯหรือไม่ถ้ากระแสสังคมไม่เอา 'ประยุทธ์' บอกมันยังไม่เกิด

วันที่ 8 ส.ค. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงกรณีประกาศตัวพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้าระหว่างลงพื้นที่เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ลพบุรี ว่า หากประชาชนไว้วางใจเลือกพรรค ภท.มาเยอะๆ เวลาเราหาเสียงก็ต้องหาเสียงอย่างเต็มที่ 

เมื่อถามว่า การประกาศเช่นนี้จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่สบายใจหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ไม่หรอก ตนไม่ได้บอกว่าจะมาเป็นนายกฯวันนี้ ก็ต้องหาเสียงมหานโยบายที่ดีๆนำเสนอประชาชน และเมื่อสักครู่ในการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ก็ได้คุยกับนายกฯ แต่คุยเรื่องงาน ไม่ได้คุยเรื่องเกี่ยวกับการเมือง เพราะเรื่องการเมืองเป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่ต้องไปทำหน้าที่ เมื่อวันที่ 7 ก็มีตั้ง 3 พรรคที่ไปหาเสียงและแสดงความพร้อม เราจะเป็นพรรคการเมืองก็ต้องมีความพร้อม

เมื่อถามว่า ภท.ตั้งเป้าจะเป็นพรรคอันดับ 1 หรืออันดับ 1 ในขั้วรัฐบาลขณะนี้ อนุทิน กล่าวว่า เราตั้งเป้าคือการนำเสนอนโยบาย และแสดงผลงานในช่วงที่มีโอกาสทำงานให้ประชาชน ใจเย็นๆยังไม่เลือกตั้งในเร็ววันนี้หรอก

เมื่อถามต่อว่า หากตนจะเป็นนายกฯ พรรค ภท.ควรมีคะแนนเสียงเท่าไหร่ อนุทิน กล่าวว่า รอให้ถึงวันนั้นก่อน เมื่อซักต่อว่า ต้องได้ 100 เสียงขึ้นไปใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า อย่างที่ตนเคยบอกไว้จะตัดสินใจชัดเจนคือเย็นวันเลือกตั้ง หลังจากที่เราเห็นแนวโน้มของคะแนน เราจะได้รู้ตัเองว่าจะได้เป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน 

เมื่อถามว่า คิดว่าพรรค ภท.เนื้อหอมที่สุดหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคก็เนื้อหอม และลงพื้นที่เหมือนกัน ทำไมต้องมาทัวร์ลงพรรค ภท.อยู่พรรคเดียว เมื่อถามต่อว่า ดูเหมือนว่าคนมีชื่อเสียงจะย้ายมา ภท.เป็นส่วนใหญ่ อนุทิน กล่าวว่า นั่นเป็นสิ่งที่ดี และแนวโน้มที่ดีของภท. 

เมื่อถามว่า ประทวน สุทธิอำนวยเดช ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชารัฐ จะย้ายมาสังกัดพรรค ภท.ใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เมื่อวานที่ จ.ลพบุรี พรรค ภท.เปิดตัวแค่ 3 เขต ส่วนเขตที่ 1 ขอให้รอวัน ว. เวลา น.เดี๋ยวให้รอดู 

ถามอีกว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสว่า พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และแกนนำส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ จะมา ภท.หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า พุทธิพงษ์ กับตนก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก และสมัยคุณแม่ ฉะนั้นเรื่องการหารือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้ามีโอกาสที่ดี ภท.กับ พุทธิพงษ์ทำงานร่วมกันได้ เพราะ ภท.ก็อ่อนในพื้นที่ กทม. ถ้าเรามีคนที่มีความสามารถและเข้าใจพื้นที่ ทุกอย่างก็เป็นไปได้หมด และยังอยู่ในกระบวนการหารือและพูดคุยกันอยู่ 

เมื่อถามย้ำว่า พุทธิพงษ์ ได้เข้ามาพูดคุยกันจริงใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ปกติก็คุยกันอยู่แล้ว เพราะเป็นเพื่อนกัน เรียกชื่อเล่นกันจนลืมชื่อจริงไปแล้ว 

เมื่อถามว่า ภท.จีบ เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ด้วยใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน ยังไม่มีอะไร ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด ตั้งแต่ ไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว.สาธารณสุข ที่เสียชีวิตไปแล้ว และลูกชายก็รู้จักกันดี ทั้งด้านการเมือง ครอบครัว ส่วนตัว และทีมฟุตบอล ทำกิจกรรมหลายอย่างร่วมกัน และที่สำคัญตอนที่นายไชยา ดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุข ชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดาของตนก็เป็นรมช.สาธารณสุข 

อนุทิน ยังกล่าวถึงกระแสพรรคการเมืองต่างลงพื้นที่หาเสียงในช่วงนี้ เป็นเพราะเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ ว่า ไม่หรอก เพราะเป็นโค้งสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะยังไงสภาชุดนี้ก็หมดวาระในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2566 อยู่แล้ว ถ้านับจริงๆก็เหลือประมาณ 9 เดือน เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะต้องเตรียมการในการเลือกตั้ง 

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพล.อ.ประยุทธ์ ได้อยู่ต่อในปม 8 ปี และเกิดแรงต้านจากสังคม ตนพร้อมจะเป็นนายกฯ หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า มันยังไม่เกิด วันนี้รัฐบาลชุดนี้ทำงานเต็มที่ ทุกคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ และมีภาระที่จะต้องทำงานต่อไป เช่น วันนี้มีการประชุมเตรียมงานประชุมเอเปค และประชุมกันอย่างยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง แสดงว่ามีเรื่องสำคัญของประเทศที่เราต้องเตรียมตัว เรื่องการประชุมเอเปคเป็นเรื่องชื่อเสียงของประเทศชาติ จะไปคิดเป็นการเมืองไม่ได้ 

"อยู่ที่นี่ผมก็เป็นลูกน้องท่านนายกฯ อยู่ในสภาก็เป็นลูกน้องพี่น้องประชาชน เราก็ต้องใช้แต่ละบทบาทให้ถูกต้อง มาอยู่ที่นี่จะมาเล่นการเมืองมันก็ไม่ได้ เพราะต้องทำงานให้กับบ้านเมือง" อนุทิน กล่าว

อนุทิน ยังกล่าวถึงวางหลักการทำหน้าที่ของส.ส.ภูมิใจไทย ในการพิจารณากฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ในการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 10 สิงหาคม ว่า ดูการปฏิบัติของ ภท.เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราก็อยู่ในสภาครบถ้วน ถ้าอยู่สภาแล้วไม่แสดงตนโดยไม่มีเหตุ ไม่คอขาดบาดตาย ก็คงไม่ได้ เพราะมีเรื่องจริยธรรม เราและก็มีความเป็นตัวของตัวเองในระดับหนึ่ง เรื่องรัฐธรรมนูญเราไปล้อเล้นไม่ได้ 

เมื่อถามว่า ภท.มีมติหรือไม่ว่าจะให้ใช้สูตรหาร100 หรือหาร500 อนุทิน กล่าวว่า ภท.ลงมติแก้รัฐธรรมนูญไปแล้ว ส่วนเรื่องหาร 100 หรือหาร 500 เป็นเรื่องปลีกย่อย เพราะไม่ว่าจะสูตรไหนก็ไปลงเอยที่ศาลรัฐธรรมนูญ และภท.ก็เลือกที่จะทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ คือระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะกลับไปแบบ 1 ใบคงลำบาก เพราะต้องไปแก้ที่รัฐธรรมนูญ ตนคิดว่าเราไม่ควรแก้แล้ว เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญทำเป็นเรื่องเล่นๆไม่ได้ 

ส่วนสถานการณ์โรคฝีดาษลิงในประเทศไทย อนุทิน ระบุว่า ขณะนี้ผู้ป่วยยังยืนยันอยู่ที่ 4 ราย ส่วนผู้ต้องสงสัยชาวฝรั่งเศสที่เจอแถวจังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี ผลเป็นลบ

ส่วนเป้าหมายการฉีดวัคซีนกลุ่มแรก รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ปกติมีหลักการอยู่ ซึ่งตนอยากให้สอบถามแพทย์ แต่เท่าที่รับรายงานบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่เสี่ยงควรฉีด และการฉีดวันซีนวัคซีนฝีดาษลิงไม่จำเป็นต้องเหมือนวัคซีนโควิดที่เจอใครก็ฉีด แต่จะต้องฉีดเฉพาะผู้มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยหรือแม้ติดเชื้อแล้วฉีดก็ทันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน พร้อมยืนยันว่าวัคซีนของกรมควบคุมโรคที่เตรียมไว้มีจำนวนเพียงพอกับสถานการณ์