นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ 1 ใน 3 ผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยนายการุณ โหสกุล ผู้สมัครเขตดอนเมือง หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย หาเสียงที่ตลาดนัดปิ่นเจริญ 1 ซึ่งได้รับความสนใจจาก พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของในช่วงเย็นเป็นอย่างมาก บางคนเข้ามาขอถ่ายภาพ บางคนเข้ามาสวมกอด ขณะที่บางคนเข้ามามอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมตะโกน 'เบอร์ 1' และ 'พรรคเพื่อไทย' ตลอดทาง

โดยนายชชัชาติ กล่าวว่า ไม่กังวลที่พื้นที่ดอนเมืองเป็นพื้นที่ที่มีค่ายทหารมาก เพราะเชื่อว่าทหารมีอิสระในการเลือกตั้ง และเขาจะเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ของลูกหลานในอนาคต ขณะที่นายการุณ กล่าวว่า “ไม่กังวลครับ เพราะทหารส่วนใหญ่เลือกเรา”

ส่วนกรณีที่ระบุว่าจะไม่ทำโครงการรับจำนำข้าวต่อ นาชชัชชาติ ชี้แจงว่า นโยบายจำนำข้าวถือเป็นนโยบายที่ดีมยการช่วยเหลือชาวนา แต่มีปัญหาข้อปฏิบัติในการระบายข้าว ซึ่งตอนนี้ทีมที่ทำนโยบายด้านการเกษตรกำลังพิจารณาในประเด็นลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร ส่วนนโยบายที่จะออกมาในเรื่องนี้จะยังไม่ถือว่าเป็นหมัดน็อก เพราะเรามี 14-15 นโยบาย ที่จะรอเปิดภายใน 1-2 อาทิตย์ข้างหน้าไว้แล้ว โดยจะเน้นที่การลดภาระหนี้ก่อน ไม่ใช่ยกเลิก และที่สำคัญคือการหาทุนให้กับคนตัวเล็ก 

ขณะที่ประเด็นแคนดิเดตนายกฯ ของทุกพรรคการเมืองควรร่วมดีเบตแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ทุกพรรคควรส่งคนที่เกี่ยวข้อง และมีความเชี่ยวชาญกับประเด็นนั้นๆ ไปแสดงวิสัยทัศน์ แต่เรื่องสำคัญแคนดิเดตนายกฯ ก็ควรมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเก่ง และความน่าเชื่อถือในประชาชนเกิดความไว้ใจ ประกอบการตัดสินใจ หากไม่มาร่วมเวทีดีเบต ก็ควรออกมาชี้แจงเรื่องต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบ ทั้งนี้ หากจะอ้างว่าไม่ใช่สมาชิกพรรค ตนมองว่าแคนดิเดตนายกฯ ก็พูดได้ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะเลือกทั้ง ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกฯ 

ทั้งนี้ การแสดงวิสัยทัศน์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตนมองว่าเป็นคนละบริบทกับการเป็นแคนดิเดตนายกฯในการเลือกตั้ง เพราะปัจจุบันรัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อำนาจต่างๆ ที่มีอยู่จึงไม่เหมือนรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย จะอ้างผลงานรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารมาเทียบกับรัฐบาลในอนาคตไม่ได้ เพราะท่านมีทั้งกฎหมายพิเศษ และสภาพิเศษ

เมื่อถามว่า การที่นายกฯ ออกรายการทุกคืนวันศุกร์ถือว่าเป็นการสร้างความได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า การจะได้เปรียบหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะดูมากแค่ไหน แต่ตนคิดว่าการออกรายการทุกคืนวันศุกร์อาจจะไม่เป็นประโยชน์ต่อท่านมากนัก ตนคิดว่าประชาชนยิ่งมีข้อมูลเยอะ ยิ่งตัดสินใจได้ง่าย ถ้าท่านไม่มาดีเบตอาจจะทำให้ท่านเสียเปรียบด้วยซ้ำ เพราะหากท่านเก่ง และมีความสามารถท่านก็น่าจะมาแสดงให้คนเห็น

ทั้งนี้ รายการคืนวันศุกร์ตนไม่รู้ว่ามีคนดูมากหรือน้อย เพราะตนไม่เคยดู เนื่องจากอาจจะออกบ่อยเกินไป หากออกมาพูดเฉพาะประเด็นคนอาาจะสนใจมากขึ้นก็ได้ และการดีเบตก็ไม่ต้องกลัว ทุกคนไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นการแข่งขันเพื่อสร้างอนาคต ซึ่งหากนโยบายของใครดี ในอนาคตคนอื่นก็อาจนำมาปรับใช้ก็ได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรค พท. ได้รับผลกระทบจากการให้ผู้นำ และสมาชิกท้องถิ่นมาช่วยหาเสียงหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้สอบถามผู้สมัครในพื้นที่ของพรรค คงต้องรอดูอีกทีว่าจะมีผลกระทบอย่างไร แต่ส่วนตัวมองว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐหากยังมีอำนาจอยู่ก็ไม่ควรมาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง 

จากนั้นเวลา 16:40 น. นายชัชชาติ และคณะเริ่มเดินพบปะประชาชนตั้งแต่แนวหน้าอาคารโรงเรียนสีกันถึงแฮปปี้อเวนิว และเดินพบปะประชาชนตลาดนัดบุญอนันต์