พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ Bangkok Thonburi Hall ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยมีมติเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ หลังหม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล (หม่อมเต่า) ลาออกไปก่อนหน้านี้ ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน และคณะกรรมการชุดต่างๆ พ้นสภาพ การเสนอชื่อกรรมการบริหารพรรคทุกตำแหน่งมีเพียงแค่เบอร์เดียว ได้แก่ นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง หัวหน้าพรรค 565 คะแนน
ส่วนนายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขาธิการพรรค 545 คะแนน, น.ส.จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ เหรัญญิกพรรค 524 คะแนน, นายธันย์ธรณ์เทพ แย้มอุทัย นายทะเบียนพรรค 533 คะแนน, นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ 548 คะแนน, นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร 552 คะแนน, และนายนายดนุช ตันเทอดทิตย์ 553 คะแนน เป็นกรรมการบริหารพรรค
นอกจากนี้ ยังมีการเลือกคณะกรรมการจริยธรรมวินัยและคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สำหรับตำแหน่งโฆษกพรรค ไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ และ น.ส.เพชรชมพู กิจบูรณะ แต่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังมีมติเปลี่ยนสัญลักษณ์พรรค เพราะคำนึงถึงการกาบัตรเลือกตั้ง โดยยังคงล้อแห่งธรรมไว้ แต่จะมีรูปช้างเผือก สัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาแทนตรงกลาง เพื่อให้โลโก้พรรคโดดเด่นมากขึ้น สื่อความหมายธรรมอันประเสริฐของศาสนา และสื่อความหมาย การรวมพลังของประชาชน คู่พระบารมีพระมหากษัตริย์ และร่วมกันผลักดันการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศให้พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง
นายทวีศักดิ์ กล่าวหลังการประชุมว่า ขอบคุณสมาชิกพรรค ตนจะตั้งใจทำงานเต็มที่ ตนอาจจะไม่สดชื่นเข้มแข็งเหมือนหนุ่มๆ แต่ว่าใจสู้ ตอนนี้ทำหน้าที่ถือว่าเป็นทุกขลาภ แต่ยอมรับ เต็มใจและยินดีทำเพื่อประชาชน
โดยหัวหน้าพรรคคนใหม่ ก่อนหน้านี้ปรากฏชื่อของ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง หลังพรรคฯ ได้เสนอชื่อนายเอนก ต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ดังนั้น จึงให้นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรคฯ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค ขึ้นตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน เพื่อให้นายเอนก ได้ทำหน้าที่รัฐมนตรีอย่างเต็มที่
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ได้มานั่งสังเกตการณ์ร่วมกับสมาชิกพรรค และกล่าวกับที่ประชุมพรรคว่า ตนขอขอบคุณสมาชิกพรรคทั่วประเทศที่แน่วแน่มั่นคงต่อสู้ทางการเมืองด้วยวิถีทางประชาธิปไตย พรรคของเราเป็นพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง ประชาชนเป็นใหญ่ เป็นเจ้าของพรรค เป็นผู้กำหนดนโยบายที่พรรคต้องปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นี่คือจุดยืนสำคัญ การดำเนินการต้องเป็นไปโดยประชาชน ทุกสี่ปีต้องมีการประชุมสมัชชาใหญ่พรรค โดยการประชุมทางไกล tele-conference เพื่อให้การประชุมสมัชชาพรรคมีความสำคัญ กรรมการบริหารพรรคชุดนี้เป็นชุดรักษาการเพื่อเตรียมความพร้อมให้พรรค และมีวาระถึงการประชุมสมัชชาใหญ่เท่านั้น ภายในปลายปี 2564 หรือต้นปี 2565 และตอนนั้นจะมีกรรมการบริหารพรรคชุดถาวร
ตนมั่นใจว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะทำหน้าที่จนครบ 4 ปี และหากเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในปี 2565 ก็ยังมีเวลามากพอในการเตรียมตัวลงสู่สนามเลือกตั้ง จึงขอฝากความหวังไว้ที่บรรดาสมาชิกพรรคให้มีหน้าที่ในการขยายความคิดไปสู่พี่น้องเพื่อนฝูง ชักชวนมาเป็นสมาชิกพรรคและร่วมทำการเมืองกับเรา เพราะการเป็นพรรคการเมืองของประชาชนต้องพึ่งเงินทุนจากประชาชน ทุกคนต้องมีใจหนักแน่นทำประโยชน์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เราไม่ได้ทำการเมืองเพื่อตัวเราเอง เราทำการเมืองเพื่อประเทศชาติ เพื่อลูกหลานของเรา ตนเข้ามาทำงานไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ตนไม่รับเลือกตั้งและรับประโยชน์ใด แต่จะอยู่เคียงข้างทุกคน
และตนขอแสดงความยินดีกับคณะกรรมการบริหารพรรค และแสดงความยินดีล่วงหน้ากับ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต่อจาก ม.ร.ว.จัตุมงคล ขอให้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่และขอให้นำความสำเร็จมาสู่พรรค