ไม่พบผลการค้นหา
ประธานผู้แทนการค้าไทย หารือเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย และผู้อำนวยการภูมิภาคของ Enterprise Ireland เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ผลักดัน Soft Power ไทยสู่ยุโรป เร่งรัดเจรจา FTA

ดร. นลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย ได้พบหารือกับ นายแพทริก เบิร์น เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย และ นายเควิน ไรอัน ผู้อำนวยการภูมิภาคของ Enterprise Ireland เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างไทยและไอร์แลนด์ ผลักดัน Soft Power ไทยสู่ตลาดยุโรป และเร่งรัดการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป (FTA Thai - EU)

ดร. นลินี กล่าวแสดงความยินดีที่ปีนี้ ไทยและไอร์แลนด์จะเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูต พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการขยายมูลค่าการค้าระหว่างกัน ซึ่งในปี 2567 ไทยและไอร์แลนด์มีมูลค่าการค้ารวม 1,248.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.82% จากปีก่อน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เช่น การศึกษา การพยาบาล อุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร และพลังงานทดแทน รวมถึงการส่งเสริมสินค้าไทยในตลาดไอร์แลนด์ อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องประดับ และชิ้นส่วนยานยนต์

ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญด้านเทคโนโลยี แม้มีขนาดเล็กแต่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจจากประเทศที่พึ่งพาเกษตรกรรมไปสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ อาทิ Google, Apple, Facebook, Microsoft และ Intel รวมถึงมีความเชี่ยวชาญด้าน FinTech, AgriTech, BioTech, AI และ Clean Energy โดยไทยสามารถใช้โอกาสนี้ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถช่วยให้ไทยก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง

นอกจากนี้ ไอร์แลนด์เป็นประเทศแรกในโลกที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones) และเป็นผู้คิดค้นระบบร้านค้าปลอดภาษี (duty-free shopping) นอกจากนี้ สายการบิน Ryanair ยังปฏิวัติการเดินทางทางอากาศ และปัจจุบันเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้ง ไอร์แลนด์ยังเป็นศูนย์กลางสำคัญของอุตสาหกรรมให้เช่าเครื่องบินระดับโลก

โดยไทยเห็นโอกาสในการขยายความร่วมมือด้านโลจิสติกส์และการบิน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของไทย

ดร. นลินี ยังเน้นย้ำถึงการผลักดัน Soft Power ไทย โดยเฉพาะอาหารไทย ซึ่งได้รับความนิยมในไอร์แลนด์ พร้อมเชิญชวนผู้ประกอบการไอร์แลนด์เข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติของไทย รวมถึงหารือถึงความสำคัญของการมีเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมการเชื่อมโยงด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

ในการหารือครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งรัดการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งไทยเชื่อว่าความตกลงดังกล่าวจะช่วยขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดยุโรป ไอร์แลนด์ได้แสดงการสนับสนุนการเจรจา และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถสรุปข้อตกลงได้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด

ปัจจุบัน สหภาพยุโรปมีประชากรกว่า 447 ล้านคน และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังเป็นตลาดสำคัญอันดับที่สี่ของไทย โดยมีสัดส่วนการค้าถึงร้อยละ 7 ของการค้าของไทยกับโลก คิดเป็นมูลค่าการค้ารวมกว่า 41,712 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การบรรลุข้อตกลง FTA จะเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสหภาพยุโรป และเสริมสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนในระยะยาว