น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายวาระพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. 2567 น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า พ.ร.ก.ภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. 2567 มีความเร่งด่วนที่สุด ทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาสิทธิในการจัดเก็บภาษี ตามมาตรการป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีระหว่างประเทศ โดยกำหนดให้กลุ่มนิติบุคคลข้ามชาติขนาดใหญ่ ต้องเสียภาษีที่แท้จริง ในอัตราร้อยละ 15 ตามความเห็นชอบของภาคีสมาชิก BEPS และตามมาตรฐาน OECD ที่นายกฯ แพทองธาร ประกาศสานต่อมุ่งเข้าเป็นประเทศสมาชิก จึงเป็นการปูทางสู่การเป็นสมาชิก OECD อีกขั้นหนึ่ง เปิดประตูเชื่อมไทยสู่โลก เป็นผลประโยชน์ระยะยาวน.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า ผลประโยชน์โดยตรงที่ไทยจะได้รับจาก พ.ร.ก. ฉบับนี้คือ ไทยจะมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นปีละ 12,000 ล้านบาท ให้รัฐบาลขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน เพิ่มความยั่งยืนทางการคลังของประเทศ ลดความเสี่ยงที่ไทยจะถูกจัดอยู่ในบัญชีดำแหล่งฟอกเงิน/เลี่ยงภาษี ได้รับการยอมรับในเวทีโลก เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและหน่วยงานระหว่างประเทศ

“โลกกำลังเดินไปในทางเดียวกัน พ.ร.ก.ภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. 2567 ทำให้ไทยไม่ตกขบวน และเป็น “ปราการเหล็ก” ที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อรักษาระบบภาษี ปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่รัฐบาลต้องทำ ภายใต้รัฐธรรมนูญ และนโยบายคณะรัฐมนตรีที่นายกฯ แพทองธาร แถลงต่อไว้ จึงขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ผลักดันสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวไปอีกขั้นสำหรับความก้าวหน้าทางระบบภาษี ทัดเทียมนานาอารยประเทศต่อไป” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว