ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิดจากเม็กซิโก 5 เปอเซ็นต์ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนที่จะถึงนี้ และจะเพิ่มขึ้นในทุกๆ เดือนในอัตราเพิ่มขึ้นเดือนละ 5 เปอร์เซ็นต์ จนถึงตุลาคม ซึ่งจะมีอัตราถาวรที่ 25 เปอร์เซ็นต์ หากเม็กซิโกไม่สามารถหยุด หรือลดจำนวนผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายได้
แถลงการณ์ของสหรัฐฯระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นเดือนละ 5 เปอร์เซ็นจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกนั้นสูงถึง 25 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม และอัตราภาษีดังกล่าวจะยกเลิกก็ต่อเมื่อเม็กซิโกสามารถแก้ปัญหาผู้ลักลอบเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายได้
ขณะที่ โรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ เจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐฯ ได้ทำหนังสือส่งไปยังคณะกรรมาธิการการค้าเสรีแห่งอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) เพื่อให้เริ่มดำเนินเรื่องดังกล่าวกับเม็กซิโก
การเก็บภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ จากเม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพืชผักที่ส่งเข้าไปยังสหรัฐฯ จำนวนมากในแต่ละปี ขณะที่สินค้าเช่น อะโวคาโด และ เตกิล่า อาจจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้าหลักของสหรัฐฯ จากเม็กซิโก
ทั้งนี้ มูลค่าการค้าของสหรัฐฯ และเม็กซิโกในปี 2018 คิดเป็นมูลค่ากว่า 346,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นอัตราส่วนถึง 13.6 เปอเซ็นต์ของสินค้านำเข้ามายังสหรัฐฯทั้งหมด