นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับบริษัทอาลีบาบา ซึ่งเป็นผู้ประกอบการตลาดสินค้าออนไลน์รายใหญ่ของประเทศจีนเพื่อจัดตั้งระบบออนไลน์สำหรับซื้อขายยางพาราในประเทศไทย ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการชาวจีนให้สามารถประมูลซื้อขายยางพาราของไทยได้ภายในประเทศจีนโดยตรง เบื้องต้นคาดว่ามูลค่าการซื้อขายไม่ต่ำกว่า 200,000 ตันต่อปี

ทั้งนี้ ทางการยางแห่งประเทศไทยรับว่าจะคัดเลือกสถาบันเกษตรกรที่ผลิตยางพาราได้คุณภาพ อีกทั้งมีศักยภาพในการรวบรวมยางพาราได้ตามความต้องการสั่งซื้อ

สำหรับขั้นตอนต่อไปจะมีการหารือสถานที่ที่จะติดตั้งระบบออนไลน์ รวมทั้งหาโปรแกรมเหมาะสม เนื่องจากไทยมีผลผลิตยางพาราหลายรูปแบบ เป็นประเทศที่ส่งออกน้ำยางข้นมากเป็นอันดับ 1 ของโลก

นอกจากนี้ ยังมียางก้อนถ้วย ยางแผ่น ยางรมควัน และยางแท่ง ซึ่งจะต้องมีโปรแกรมการประมูลซื้อขายที่สอดรับกับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการชาวจีนที่จะรับซื้อด้วย

สำหรับการซื้อขายยางพารา ครั้งนี้ เป็นผลดีต่อการรักษาเสถียรภาพราคายางพารา เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่ใช้ยางพารามากที่สุด หากจัดทำระบบประมูลซื้อขายทางออนไลน์ จะสามารถประมูลซื้อขายตรงได้สะดวกจากไทย ทำให้ปริมาณการรับซื้อจะเติบโตขึ้น ส่งผลให้ราคายางพาราในประเทศสูงขึ้น

'ประยุทธ์' พอใจราคายางปรับตัวสูงขึ้น เร่งหน่วยงานช่วยเหลือเกษตรกร

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ขณะนี้ราคายางเริ่มปรับตัวสูงขึ้น เป็นทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ โดยราคายางแผ่นดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 39.64 บาทต่อ กก. หลังจากก่อนหน้าเฉลี่ยต่ำสุดที่ 38.07 บาทต่อ กก. และราคายางแผ่นรมควันเฉลี่ยอยู่ที่ 43.19 บาทต่อ กก. หลังจากก่อนหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 40.30 บาทต่อ กก.

โดย พล.อ.ประยุทธ์ เน้นย้ำว่า ปัจจัยสนับสนุนให้ราคายางมีแนวโน้มดีขึ้นนั้นส่วนหนึ่งมาจากมาตรการเร่งด่วนของภาครัฐ ทั้งโครงการบรรเทาความเดือดร้านเกษตรกรชาวสวนยาง โครงการสร้างถนน 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร โครงการส่งเสริมสถาบันเกษตรกรให้มีบทบาทรักษาเสถียรภาพราคายาง มารตรการช็อปช่วยชาติ 2561 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวสูงขึ้น และผู้ประกอบการยางในประเทศมีความต้องการยางอย่างต่อเนื่อง

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและพอใจที่ราคายางเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิด เช่น ปัญหาภัยธรรมชาติ ภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศ เพื่อรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับราคายางของไทยได้