วันที่ 22 มี.ค. ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นำโดย ศิริกัญญา ตันสกุล อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ ภายใต้แนวคิด พลิกโฉมประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ประกอบไปด้วย 7 คน
1) วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร เป็นรองศาสตราจารย์ที่ National Graduate Institute for Policy Studies (GRIPS) มหาวิทยาลัยด้านนโยบายสารณะ แห่งกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำงานวิจัยเรื่องเสือเศรษฐกิจแห่งเอเชีย และกับดักรายได้ปานกลาง เป็นผู้เขียนหนังสือ “เศรษฐกิจสามสี เศรษฐกิจแห่งอนาคต” โดยจะมาผลักดันเรื่องซัพพลายเชนอุตสาหกรรมไฮเทคโลก
2) สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ปัจจุบันเป็นกรรมการบริษัทเอกชนสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย Moshi Moshi เป็นผู้พิพากษาสมทบในศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศ โดยจะเสนอแนวทาง 5 ต. มีนโยบาย เช่น หวยใบเสร็จ และเพิ่มแต้มต่อ เพื่อพัฒนา SME ไทยให้เติบโต
3) วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในแกนนำพรรคด้านเศรษฐกิจ โดยจะเสนอนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ที่มีจุดเด่นต่างจากพรรคอื่น ด้วยแนวทางลดค่าใช้จ่ายให้กับคนธรรมดา และภาคธุรกิจ ผ่านการปรับนโยบายพลังงานของไทยอย่างเป็นระบบ
4) อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล นักวิชาการด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบันเป็น 1 ใน 100 รายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้ง 2566 โดยนายอภิสิทธิ์ ปัจจุบันเป็นประธานคณะกรรมการสำนักการตลาด กทม. เป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย เคยเป็นอดีต ผอ.ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA)
5) ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทางการเงิน และนักยุทธศาสตร์ด้านข้อมูล อดีตรอง ผอ.กลุ่มงานยุทธศาสตร์องค์กร มีส่วนผลักดันโครงการพัฒนาเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) สำหรับชำระเงินระหว่างประเทศ โดยจะมาผลักดันนโยบายแปลงข้อมูลเป็นขุมทรัพย์
6) เดชรัต สุขกำเนิด ผอ.ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) ของพรรคก้าวไกล อดีตอาจารย์ ม.เกษตรศาสตร์ คนผลักดันด้านนโยบายต่าง ๆ ของพรรคก้าวไกล จะนำเสนอนโยบายปลดล็อกชีวิตเกษตรกรไทย และหยุดแช่แข็งชนบทไทย
7) ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจก้าวไกล เคยเป็น ผอ.ฝ่ายนโยบาย พรรคอนาคตใหม่ โดยเป็นประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจของสภาฯ และมักอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจ และการผูกขาดของกลุ่มทุน
ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล จะนำเสนอในประเด็น 7 วาระเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยประกอบไปด้วย Made with Thailand เปิดโอกาส เปิดตลาด SME / ทลายทุนผูกขาดลดค่าครองชีพ Unlock เศรษฐกิจสร้างสรรค์ แปลงข้อมูลเป็นขุมทรัพย์ หยุดแช่แข็งชนบทไทย ยกเครื่องภาครัฐ นำเศรษฐกิจไทยก้าวหน้า โดยทีมเศรษฐกิจแต่ละคนจะรับผิดชอบคนละ 1 วาระตามลำดับ
โดยพรรคก้าวไกลต้องการให้เศรษฐกิจไทยเติบโตแบบเป็นธรรม คือเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย และมีการกระจายดอกผลของการเติบโตอย่างเป็นธรรมด้วย หรือที่เรียกว่า Inclusive Growth เป้าหมายมี 3 ส่วนคือ วางรากฐานชีวิตคนไทยให้มั่นคง สร้างกติกาการแข่งขันที่เป็นธรรม และพาธุรกิจไทยไปบุกตลาดโลก
ศิริกัญญา ตันสกุล อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรค ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีพรรคก้าวไกลเปิดระดมทุนในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่พรรคสามารถจะระดมทุนไปใช้ในการหาเสียง พร้อมย้ำว่าไม่ใช่การบังคับ ประชาชนสามารถให้ได้ตามความสมัครใจ การระดมทุนโดยการรับบริจาคจากรากหญ้าก็มีหลายประเทศที่ทำ และยิ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการสนับสนุนพรรคการเมือง รวมถึงนโยบายและผู้สมัครของพรรคนั้น
ส่วนการเปิดรับบริจาคท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจประเทศที่ย่ำแย่ ประชาชนยังเป็นหนี้สิน พรรคก้าวไกลไม่ได้ตั้งเป้าว่า จะได้เม็ดเงินเหมือนตอนที่เศรษฐกิจประเทศเฟื่องฟู และหากได้เงินบริจาคเพิ่มขึ้น ก็จะสามารถใช้จ่ายเพิ่มได้ โดยเฉพาะการติดป้ายหาเสียงได้เพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันป้ายหาเสียงของพรรคก้าวไกลค่อนข้างมีน้อยกว่าพรรคอื่น
พร้อมกันนี้ ศิริกัญญา ยังเน้นย้ำว่า เงินจากกองทุนพัฒนาการเมืองที่ กกต. จัดหาให้ ค่อนข้างมีจำกัด และมีเงื่อนไขในการนำเงินไปใช้ติดตั้งป้ายหาเสียง โดยเฉพาะลักษณะป้าย ให้ใช้ได้เฉพาะป้ายนำเสนอนโยบายเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นป้ายประชาสัมพันธ์ได้ จึงจำเป็นต้องใช้ทุนจากการบริจาค นอกเหนือจากเงินที่ได้จากผู้สมัคร
ขณะเดียวกัน ตนก็ยินดีหากพรรคการเมืองอื่นจะใช้การรับบริจาคเช่นเดียวกันนี้ ในการหาเสียงเลือกตั้งให้ได้ตรงตามเป้าหมาย เช่นที่พรรคก้าวไกลทำ เพราะกระบวนการของการทำพรรคการเมือง และการหาเสียงเลือกตั้งต้องใช้เงินมหาศาล พรรคอื่นจะใช้โมเดลแบบก้าวไกลก็ยินดีให้ทำตาม และจะทำให้เกิดการแข่งขันว่า จะสามารถประชาชนจูงใจให้ประชาชนมาบริจาค และทำให้พรรคการเมืองมีความเป็นสถาบันทางการเมืองได้ในที่สุด
เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาลจริง จะสามารถฝ่าฟันอำนาจมืดเพื่อผลักดันนโยบายให้เป็นจริงได้หรือไม่ ศิริกัญญา ยืนยันว่า ทุกนโยบายสามารถทำได้จริง เพราะพรรคก้าวไกลไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจกลุ่มทุน ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วผ่านงานสภา พูดในเรื่องที่ควรพูดมาโดยตลอด
ส่วนการที่พรรคก้าวไกลระบุว่า นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร ใช้ไม่ได้จริง จะดูย้อนแย้งกับพรรคการเมืองอื่นที่หาเสียงไว้ ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องเอาเรื่องข้อมูลมาพูดกัน นโยบายพักชำระหนี้ไม่ได้เพิ่งเกิด พรรคก้าวไกลพบว่า การพักชำระหนี้ กลับก่อหนี้เพิ่มขึ้นถึง 60% ทำให้นโยบายนี้ทำให้คนที่เป็นหนี้อยู่แล้ว และอาจมีกำลังจ่าย กลับมีหนี้พอกพูนสูงขึ้น ทำให้กลายเป็นบุคคลสูญเสียความสามารถในการชำระหนี้
เมื่อถามว่าเรื่องที่นำเสนอวันนี้ อาจเข้าถึงประชาชนได้ยากจะมีวิธีการสื่อสารอย่างไร ให้เข้าใจง่ายขึ้น ศิริกัญญา ระบุ การนำเสนอในวันนี้ เป็นการเสนอความคิดเห็นของเราอย่างเต็มที่ อาจไม่ใช่เวทีสำหรับสื่อสารตรงสู่ประชาชนทั่วไป สุดท้ายอาจต้องมีการย่อยให้เข้าถึงง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลมีนโยบายที่จับต้องได้อยู่แล้ว เช่น ค่าแรง 450 บาทเพิ่มขึ้นทุกปี
ศิริกัญญา ยังมั่นใจว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล ยังมีความเป็นหนึ่งเหนือกว่าทุกพรรค เพราะเราได้คัดสรรส่วนผสมที่ลงตัว อาจไม่ใช่หน้าเก่าที่คนคุ้นเคย แต่หลายครั้งเราก็ต้องการคนหน้าใหม่เข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลง ถ้ายังอยู่กับคนหน้าเก่าทีมเดิม จะคาดหวังความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ว่าการเป็นหน้าใหม่จะส่งผลต่อคะแนนเสียง ศิริกัญญา ระบุว่า ครั้งพรรคอนาคตใหม่ ก็เป็นหน้าใหม่ ทำให้เราไม่กังวล เชื่อว่าผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์