ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของนายนวัธ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบ มาตรา 98(6)
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายนวัธหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ทำให้นายนวัธไม่สามารถไปปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ได้ จากการที่นายนวัธ ถูกศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษา ลงโทษประหารชีวิตในคดีจ้างวานฆ่า เมื่อวันที่24 ก.ย.62 และให้คุมขังนายนวัธไว้ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์
ทั้งนี้ นายนวัธถูกส่งตัวเข้าควบคุมไว้ในเรือนจำกลางขอนแก่น และถูกย้ายคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวาง เนื่องจากเป็นผู้ต้องโทษประหารชีวิต โดยในวันนี้บุตรสาว และทนายของนายนวัธ ได้เดินทางมาฟังคำวินิจฉัยด้วย
เมื่อเวลา 14.00 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้อ่านคำวินิจฉัย ระบุว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ศาลขอนแก่นได้พิพากษาประหารชีวิตนายนวัธ และศาลอุธรณ์ภาคสี่ ให้คุมขังระหว่างที่ยังอยู่ในการพิจารณาคดี (ไม่ได้ประกันตัวระหว่างสู้คดี) นายนวัธ ผู้ถูกร้องจึงเป็นบุคคลที่ถูกคุมขังตามหมายศาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(6) ดังนั้นเมื่อถูกพิพากษาประหาร และคุมขังอยู่ ทำให้สมาชิกภาพ ส.ส. ของนายนวัธ จึงสิ้นสุดลงตาม มาตรา 101(6) มาตรา 98(6)
นายนครินทร์ อ่านคำวินิจฉัยต่อว่า ส่วนข้อโต้แย้งที่ว่า ผู้ถูกร้องอยู่ใต้การบังคับใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 101(13) ที่กำหนดว่า ให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงเมื่อต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งจะสอดคล้องกับการคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 ที่มุ่งหมายให้ ส.ส. ได้ปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯ โดยไม่คำนึงถึงข้อหาเมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด
แต่ศาลเห็นว่า นายนวัธ ถูกคุมขังอยู่ตามมาตรา 98(6) จึงต้องหมายความว่า สิ้นสุดลงเมื่อต้องคำพิพากษาจำคุก โดยไม่ต้องรอให้คดีถึงที่สิ้นสุด จึงอยู่ในมาตรา 98(6) ทำให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลง ตาม 101(6) โดยไม่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด
ส่วนในประเด็นที่ว่า สมาชิกภาพจะสิ้นสุดเมื่อใด ศาลเห็นว่า เมื่อสมาชิกภาพของ ส.ส. ของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงทำให้มีตำแหน่ง ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลงและต้องดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วันนับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 102 จึงให้ถือว่าวันที่ตำแหน่ง ส.ส. ว่างลง คือ วันที่ศาลรัฐธรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังโดยชอบตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลมีผลในวันอ่าน คือ วันที่ 13 พ.ย. 2562
ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญยังวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ.2562 พ.ศ.2562 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง