'ซิลแวง เอเลน' ชายชาวฝรั่งเศส วัย 35 ปี เป็นครูผู้สอนแทนของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในกรุงปารีส เมืองหลวงฝรั่งเศส และยามว่างจากการเป็นครู เขารับงานถ่ายแบบและเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์หรือละครต่างๆ ทั้งยังถูกยกให้เป็น 'ไอคอน' แห่งวงการรอยสัก เพราะเขาถูกสื่อบางสำนักระบุว่าเป็น 'ชายผู้มีรอยสักมากที่สุดในฝรั่งเศส'
เขาสักลวดลายต่างๆ ตั้งแต่ศีรษะ ลิ้น ไปถึงปลายเท้า ไม่เว้นแม้แต่ 'ตาขาว' ซึ่งเป็นการสักครั้งล่าสุดที่ทำให้เขาต้องเดินทางไปไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์ เพราะการฉีดสีสักตาขาวยังเป็น 'เรื่องต้องห้าม' ในฝรั่งเศส
เอเลนยอมรับว่า เขาคลั่งไคล้รอยสัก และตั้งเป้าว่าจะสักลายบนร่างกายตัวเองต่อไปเรื่อยๆ จนแก่เฒ่า แม้ว่าสุดท้ายแล้วร่างกายของเขาอาจกลายเป็นสีดำคล้ำไปทั้งตัวก็ตามที แม้แต่การสักตา ซึ่งเขาได้รับคำเตือนมาก่อนแล้วว่า อาจมีผลให้ตาบอดได้ แต่เขาก็ตัดสินใจเดินหน้าสักตามที่ตั้งใจไว้ ขณะเดียวกันก็ย้ำกับคนอื่นๆ รอบตัวว่า "อย่าทำตามเด็ดขาด"
ด้วยภาพลักษณ์ที่ดู 'สุดโต่ง' ทำให้การดำรงสถานะ 'ครู' ของเอเลนถูกตั้งคำถาม เพราะมีสื่อจำนวนไม่น้อยรายงานข่าวของเขา เช่น กรณีของ The Sun สื่อแท็บลอยด์ของอังกฤษเรียกเขาว่า 'ครูผู้เสพติดรอยสัก' และบอกว่าผู้ปกครองบางรายไม่ไว้วางใจให้เขาดูแลเด็กๆ
อย่างไรก็ตาม เอเลนเป็นครูชั้นประถมมานานกว่า 12 ปีแล้ว และแม้ว่าทางโรงเรียนจะได้รับเรื่องร้องเรียนหรือทักท้วง แต่ก็ไม่เคยปรากฎว่าเขามีพฤติกรรมร้ายแรงใดๆ ที่เป็นอันตรายหรือกลายเป็นอิทธิพลในเชิงลบต่อเด็กๆ
หนังสือพิมพ์ Le Point ของฝรั่งเศส รายงานว่าเด็กๆ ที่เอเลนรับผิดชอบดูแล อยู่ในช่วงวัยประมาณ 6-11 ปี และเด็กนักเรียนเหล่านี้มักเรียกเขาว่า 'คุณงู' (Mr.Serpent)
เอเลนระบุว่า เด็กๆ ที่เห็นหน้าเขาครั้งแรกอาจประหลาดใจหรือตกตะลึงอยู่บ้าง เพราะเด็กช่วงวัยนี้มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นพัฒนาการตามวัย และเริ่มรู้จักความหวาดกลัว แต่เมื่อได้แนะนำตัวว่าเขาเป็นครูคนหนึ่ง เด็กๆ ก็จะผ่อนคลายและทำตัวปกติกับเขา
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองหลายรายไม่พอใจรูปลักษณ์ภายนอกของเอเลน และร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจบริหารจัดการทุกฝ่ายในโรงเรียน เช่น กรณีของ 'ฟาริด' พ่อของเด็กประถมรายหนึ่ง มองว่าผู้ที่เป็นครูควรมีลักษณะ 'กลางๆ' ไม่ชี้นำเด็กในช่วงวัยที่กำลังเรียนรู้
นอกจากนี้ยังเคยมีกรณีที่เอเลนถูกสั่งพักงานไป 7 สัปดาห์ เพราะผู้ปกครองคนหนึ่งไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับเขาในอินเทอร์เน็ต และนำภาพเปลือยที่เขาเคยถ่ายแบบให้กับสื่อที่รายงานเกี่ยวกับรอยสักมาฟ้องกับทางโรงเรียน โดยให้เหตุผลว่าเขามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่โรงเรียนก็ไม่ได้ลงโทษขั้นรุนแรง เพราะถือว่าเป็นเรื่องนอกเวลางาน
แม้จะมีเสียงคัดค้านอยู่บ้าง แต่ก็มีผู้ปกครองและเด็กนักเรียนจำนวนมากที่มองว่ารอยสักของเอเลนไม่ได้เป็นปัญหาต่อการทำหน้าที่ครูของเขาในรั้วโรงเรียน
'ลิดี ซองโก' ผู้ปกครองคนหนึ่งของเด็กในชั้นเรียนที่เอเลนดูแล ให้เหตุผลว่าคนในสังคมต้องอดทนอดกลั้นต่อความแตกต่างหลากหลายด้วย เพราะการสักลายทั่วเรือนร่างเป็นเรื่องส่วนตัวของเอเลน เช่นเดียวกับผู้ปกครองอีกรายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ มองว่าตราบใดที่เอเลนยังทำหน้าที่ครูได้ดี การที่เขาจะทำอะไรในเวลาส่วนตัวก็ไม่ใช่ธุระอะไรของคนอื่น
ส่วน 'ลูอี' นักเรียนประถมที่เคยเรียนกับเอเลน บอกว่า 'น่าเสียดาย' ที่ผู้ใหญ่ตัดสินคนจากภายนอก เพราะที่จริงแล้วเอเลนเป็นครูที่ใจดี
ขณะที่ตัวเอเลนเองก็มองว่า การดำรงอยู่ของเขามีส่วนช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ที่จะอดทนอดกลั้น และเคารพในความแตกต่างของผู้คนได้ และเด็กที่ถูกปลูกฝังเรื่องนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะเข้าใจและยอมรับความหลากหลายของคนในสังคมได้ดี ซึ่งจะช่วยลดความเกลียดชังหรือการเหยียดผิว เหยียดเพศ หรือเลือกปฏิบัติกับผู้พิการได้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: