ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา 58 คน เดินทางกลับเมียนมา หลังจากที่อพยพไปอยู่ในค่ายลี้ภัยของสหประชาชาติในบังคลาเทศนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2017 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาครอบครัวแรก 5 คนได้เดินทางกลับเมียนมาก่อนหน้านี้แล้ว
ทางรัฐบาลเมียนมากล่าวว่า ผู้ลี้ภัยทั้ง 58 คน จะถูกส่งไปอยู่ใน 'ค่ายผู้ถูกส่งกลับประเทศ' เป็นการชั่วคราว ก่อนจะได้รับอนุญาตจากทางรัฐบาลเมียนมาให้ตั้งถิ่นฐานถาวรในเมียนมาได้ต่อไป
นายซอว์ เท โฆษกนางอองซาน ซูจี กล่าวว่า ตลอดช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา ทางเมียนมารับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลับมาตลอด
ทั้งนี้ทางรัฐบาลเมียนมาไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับผู้ลี้ภัยกลับมายังประเทศเพิ่มเติมใดๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของบังคลาเทศ กล่าวว่า พวกเขาไม่ทราบถึงรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยที่กลับไปยังเมียนมา
นาย โมฮัมเหม็ด อับดุล คาลาม ผู้ประสานงานผู้ลี้ภัยในบังคลาเทศ กล่าวว่า ไม่เคยได้ยินว่า มีผู้ลี้ภัยกลับไปยังรัฐยะไข่ตามความต้องการของพวกเขา หรือ ภายใต้การจัดการของค่ายผู้ลี้ภัยในเมียนมา
เมื่อเดือนส.ค. 2017 ชาวโรงฮิงญากว่า 700,000 คนอพยพจากการกวาดล้างชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่โดยทหารและชาวพุทธในพื้นที่ ทั้งนี้ยูเอ็นและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลกประณามว่ากองทัพเมียนมากำลังลบล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา หลังจากมีรายงานระบุว่า กองทัพเมียนมาสังหาร ข่มขืน และเผาบ้านของชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นการกดขี่ชาวโรฮิงญาอย่างเป็นระบบ แต่ทางการเมียนมาก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าลบล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา โดยอธิบายว่ารัฐบาลเมียนมาปฏิบัติหน้าที่อย่างชอบธรรมในการปราบปราม 'กลุ่มก่อการร้าย' ที่โจมตีตำรวจชายแดนในรัฐยะไข่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง