สำนักข่าวเดอะ การ์เดียนของอังกฤษร่วมกับองค์กร Save The Children ทำรายงานการสืบสวนที่ระบุว่าบริษัทเหล่านี้ใช้วิธีการที่ดุเดือด ลึกลับ และผิดกฎหมายในการส่งเสริมให้ครอบครัวยากจนในฟิลิปปินส์เลือกใช้นมผงเลี้ยงลูกแทนการให้นมแม่ ส่งผลให้ฟิลิปปินส์มีเด็กที่ได้กินนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรกเพียงร้อยละ 34 เท่านั้น
รายงานฉบับนี้พบว่า ตัวแทนบริษัทนมผงเนสท์เล่, แอบบอต และมี้ด จอห์นสัน มักเดินทางไปเยือนโรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงออกเงินสนับสนุนให้แพทย์ ผดุงครรภ์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่น ไปเข้าร่วมประชุมหรู เลี้ยงอาหาร ให้ตั๋วไปดูการแสดง ภาพยนตร์ รวมถึงซื้อชิปสำหรับการพนัน เพื่อซื้อใจเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้คำแนะนำแม่ลูกอ่อน ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิดกฎหมายฟิลิปปินส์อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ยังได้ห้ามบริษัทนมผงโฆษณาสินค้าให้กับแม่และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยตรง และการโฆษณาชวนเชื่อให้ใช้นมผงในประเทศยากจนทำให้เด็กมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคปอดบวมและท้องเสีย ขณะเดียวกัน ครอบครัวยากจนก็มักเข้าไม่ถึงบริการสาธารณสุขมากนัก จึงไม่ค่อยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีของนมแม่
Save the Children ระบุว่าบริษัทนมผงละเมิดข้อปฏิบัติสำหรับบริษัทนมผงอย่างเป็นระบบ ส่งผลต่อสุขภาพและอัตราการเสียชีวิตของเด็กทารก โดยบริษัทนมผงใช้เงินทำการตลาดถึง 36 ดอลลาร์หรือประมาณ 1,130 บาทต่อเด็กทารกที่เกิดใหม่ทุกคนบนโลก โรงพยาบาลในฟิลิปปินส์มักแจกคูปองส่วนลดสำหรับซื้อนมผง และมีการแจกแผ่นพับเกี่ยวกับ "สารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็ก" ซึ่งทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ ทั้งที่เป็นแผ่นพับของบริษัทนมผงที่ต้องการขายสินค้าของตัวเองเท่านั้น และในโรงพยาบาลบางแห่ง เจ้าหน้าที่ก็แนะนำนมผงบางยี่ห้อให้แม่ลูกอ่อนลองใช้ฟรีโดยหลอกว่าเป็น "สิ่งจำเป็น" สำหรับเด็ก
ล็อบบียิสต์ต่างๆ ยังร่วมกันกดดันรัฐบาลฟิลิปปินส์และอีกหลายประเทศทั่วโลกให้ผ่อนปรนกฎเกณฑ์ การทำการตลาดและโฆษณานมผง ขณะเดียวกัน บริษัทนมผงยังซื้อโฆษณาออนไลน์ให้บล็อกเกอร์ชื่อดังเกี่ยวกับแม่และเด็กช่วยแนะนำสินค้า พร้อมโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม ซึ่งทำให้การตรวจสอบโฆษณาที่ผิดกฏหมายยากขึ้นอีกด้วย แม้นมผงจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้หญิงบางคนที่ไม่มีน้ำนมสำหรับลูก แต่การโฆษณาชวนเชื่อของนมผงบางครั้งก็ทำให้คนเข้าใจผิด โดยโฆษณานมผงมักระบุว่าแม้นมผงจะไม่สามารถทดแทนนมแม่ได้ แต่หากดื่มนมผงจะช่วยส่งเสริมไอคิวและอีคิวของเด็ก หรือดื่มนมผงแล้วจะทำให้เด็กฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิต
เจสสิกา อิกาวัต แม่คนหนึ่งในย่านมาลาบอน ย่านชุมชนที่ยากจนที่สุดในกรุงมะนิลาระบุว่า เธอไม่ค่อยมีน้ำนมให้ลูก จึงหันมาใช้นมผง เพราะคนในชุมชนบอกว่านมผงดีเหมือนกับนมแม่ แม้บ้านของเธอจะไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้ แต่เธอก็ต้องนำเงิน 3 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมดมาจ่ายค่านมผง ต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อเก็บเงินไปซื้อนมผงให้ลูกกินจนเธอขาดสารอาหาร
อย่างไรก็ตาม ลูกของเธอก็ขาดสารอาหารไม่ต่างกัน เพราะเธอให้ลูกกินนมผงเพียงครั้งละครึ่งขวดเท่านั้น เนื่องจากมีเงินซื้อนมผงเพียง 800 เปโซหรือประมาณ 440 บาทต่อเดือน ในขณะที่คนทั่วไปจะจ่ายค่านมลูกประมาณ 2,000 เปโซหรือ 1,200 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ลูกของเธอยังป่วยบ่อยทั้งท้องเสียและเป็นหอบหืด
เดอะการ์เดียนรายงานว่าบริษัทนมผงที่มีชื่อในรายงานทั้งหมดออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายและข้อปฏิบัติของ WHO พร้อมยืนยันว่าการให้ทุนสนับสนุนเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขไม่ใช่เรื่องผิด แม้กระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์จะระบุว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บริษัทนมผงรับปากว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้งและจะทำตามข้อปฏิบัติของฟิลิปปินส์และนานาชาติอย่างเคร่งครัด