ไม่พบผลการค้นหา
'ประยุทธ์' ยังแทงกั๊ก ไม่ตอบรับนั่งบัญชีรายชื่อนายกฯ พปชร. อ้างรอคนมาขอสู่ขอให้เป็นนายกฯ เปรียบเหมือนการแต่งงาน ป้อง 4 รมต. ไม่ต้องลาออก เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ ด้าน ทษช. รุกกดดัน 4 รมต. แสดงสปิริต ไม่เอาเปรียบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ระบุว่า การที่ 4 รัฐมนตรียังไม่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นการดำเนินการตามกฎหมายที่ไม่ได้บังคับให้ต้องลาออก หากลงเล่นการเมือง หลังมีรายงานข่าวว่าทั้ง 4 รัฐมนตรีไม่ลาออก ยังอยู่ต่อเพื่อเป็นกันชนและลดแรงเสียดทานให้ พล.อ.ประยุทธ์ หากพล.อ.ประยุทธ์ต้องมาอยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐในอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันด้วยว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับนั่งในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีการติดต่อมา ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมายยังมีวันและเวลาในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งเหมือนการแต่งงาน หากไม่มาขอลูกสาว จะแต่งงานได้หรือไม่

สุริยะ ป้อง 4 รมต.ไม่ต้องลาออก

ด้านพรรคพลังประชารัฐ จัดประชุมใหญ่หารือเกี่ยวกับการแก้ไขข้อบังคับพรรค และ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวมถึงคัดเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 11 คน โดยให้สมาชิกได้ทำการลงคะแนนในลักษณะของการลงคะแนนลับเหมือนการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งในที่ประชุมมีมติเลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประกอบด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายวิรัช รัตนเศรษฐ พ.อ.สุชาติ จันทร์โชติกุล นายสุชาติ ตันเจริญ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายธรรมนัส พรหมเผ่า และนายสุพล ฟองงาม ซึ่งหลังจากนี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะเริ่มทำหน้าที่ทันที เพื่อให้ได้มาซึ่งผู้สมัคร ส.ส. ทั้งระบบเขต และบัญชีรายชื่อ

ทั้งนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมการสรรหาผู้รับสมัครเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงกรณีการลาออกจากตำแหน่งของ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ว่า ที่ผ่านมาได้ชี้แจงไปแล้วว่า ในอดีตที่ผ่านมานั้นไม่เคยมีรัฐมนตรีคนไหนลาออกจากตำแหน่ง โดยรัฐมนตรีทุกคนอยู่ตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งขอให้รัฐมนตรีทั้ง 4 คน ทำงานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จเสียก่อน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ ซึ่งหากมีรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งในตอนนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อนโยบายที่กำลังดำเนินการอยู่ได้ และ เป็นการส่งผลเสียมากกว่าผลดี อีกทั้งส่วนตัวจึงอยากให้รัฐมนตรีอยู่ปฎิบัติงานในตำแหน่งจนครบวาระ และ จะลาออกจากตำแหน่งในเวลาที่เหมาะสม พร้อมขอให้ดูที่การปฏิบัติตัวของตนเองว่า มีการใช้อำนาจหน้าที่ของการเป็นรัฐมนตรีมาเอาเปรียบหรือไม่

ทษช. กดดัน 4 รมต. ไขก๊อก

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวถึงการปลดล็อกให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ว่า ในเมื่อจะมีการเลือกตั้งก็สมควรที่จะปลดล็อก และเป็นสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอดว่าควรปลดล็อก เพราะเราต้องไปสู่การเลือกตั้ง อีกทั้งพรรคการเมืองต้องทำกิจกรรมสำคัญต่างๆ อีกหลายอย่าง รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อนำมาประมวลจัดทำเป็นนโยบายหาเสียงของพรรค รวมถึงการดำเนินการเรื่องอื่นๆ เพื่อรองรับการเลือกตั้ง ในระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด 

กรณีที่ 4 รัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบนั้นมีอยู่แล้ว แม้เรื่องนี้จะไม่ได้กำหนดอยู่ในกฎหมาย แต่เรื่องของจิตสำนึกในการพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะรัฐมนตรีเหล่านั้นสวมหมวกสองใบ ซึ่งก็ควรเลือกใบหนึ่ง อีกทั้งประชาชนก็จับตาอยู่ 

สำหรับกรณีที่รัฐบาลดำเนินการโครงการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงนี้นั้น ไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากหวังเรื่องคะแนนนิยม ทั้งเรื่องชื่อโครงการที่มีชื่อเดียวกับพรรคการเมืองที่มี 4 รัฐมนตรีเป็นแกนนำและจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งรัฐบาลไม่ควรดำเนินการในช่วงนี้ ถ้าสิ่งไหนที่หลีกเลี่ยงได้ในการที่จะทำเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองก็ขอให้เลี่ยง เพราะประชาชนแยกแยะออกว่าสิ่งไหนทำเพื่อหวังผลทางการเมือง สิ่งไหนที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน แต่ก็ยังคาดหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้นำเสนอนโยบาย และประชาชนเป็นผู้ตัดสิน 

ส่วนกรณีที่ กกต.เสนอให้พรรคการเมืองตกลงกันเรื่องเบอร์ผู้สมัคร หลังมีเสียงเรียกร้องให้ใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ ส่วนตัวเชื่อว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญนั้นการให้มีบัตรเลือกตั้งใบเดียว เพราะต้องการให้กาทั้ง ส.ส.เขตและพรรคการเมืองที่เป็นบัญชีรายชื่อ การตัดชื่อและโลโก้พรรคการเมืองออกนั้นเชื่อว่าขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและสร้างความสับสนให้กับประชาชน แต่หากเป็นเบอร์เดียวกันทั่วประเทศก็เป็นเรื่องดี แต่ไม่แน่ใจว่าจะขัดเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

ทษช. เคาะพ่อปรีชานั่งกรรมการยุทธศาสตร์ - จาตุรนต์ คุมนโยบาย

โดย ร.ท.ปรีชาพล เปิดเผยว่า พรรคไทยรักษาชาติ จะมีการประชุมเตรียมความพร้อมผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งและการจัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ในวันที่ 13 ธันวาคม ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพคเมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 10.00 -17.00 น. แบ่งเป็นช่วงเช้ามีการแสดงจุดยืน วิสัยทัศน์ อัตลักษณ์ของพรรค เสนอกรอบความคิด และให้ความรู้ด้านกฎหมายและระเบียบต่างๆ รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้สมัครจะต้องทราบ

นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรคไทยรักษาชาติ แถลงผลประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ว่า ที่ประชุมได้แต่งตั้ง 1. รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ 3 คน คือ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช , นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ และ นายพงศกร อรรณนพพร 2. แต่งตั้งนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง 3. แต่งตั้ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค เป็นประธานคณะกรรมการนโยบาย ที่จะประกอบไปด้วย 5 ด้านคือ ด้านเศรษฐกิจ , ด้านการเมือง ความมั่นคง กฎหมาย , ด้านสังคม , ด้านเทคโนโลยีและด้านการต่างประเทศ 4. แต่งตั้งนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา 5. แต่งตั้ง น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายสนับสนุน 6.แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรค รวมทั้งยังได้มีการแต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพิ่มเติมอีก 1 ตำแหน่ง คือ ดร.อรุณี กาสยานนท์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง