ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งระงับเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ถนนเยาวราช พบผู้รับบาดเจ็บ 1 คน จากไฟลวกหลัง ขณะนี้นำตัวผู้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกลางแล้ว

เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งควงคุมเพลิงไหม้ภายในอาคารเจริญสุขอาคารพาณิชย์สูง 6 ชั้นภายในซอยมังกร ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่ามีรอยร้าวเป็นบางจุด และยังพบว่าภายในตัวอาคารเป็นโกดังเก็บของเล่นต่างๆ อาทิ ตุ๊กตา ลูกโป่ง และพลาสติก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงและเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ส่งผลให้ในที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บ 1 คน เป็นแผลถูกไฟลวกที่หลัง โดยทราบว่าเป็นบุตรชายของเจ้าของอาคารซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลกลางเรียบร้อยแล้ว

เจ้าหน้าที่พยายามระงับเพลิงไหม้ไม่ให้ลามไปยังอาคารอื่นใกล้เคียง มีการกันแนวเชือกหน้าปากซอยมังกรเพื่อไม่ให้ยานพาหนะสัญจรเข้าออกและกั้นพื้นที่เป็นช่วงๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ทำการควบคุมเพลิงเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ใช้หัวฉีดกว่า 10 หัวฉีดเพื่อระงับเพลิงภายในอาคารซึ่งคาดว่ายังคงมีเปลวไฟอยู่และจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นไฟไหม้มีความรุนแรงระดับ 1 พร้อมปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุเนื่องจากฉีดน้ำจำนวนมากเพื่อดับไฟ เกรงว่าอาคารจะถล่มลงมาได้ 

ล่าสุด เพลิงได้สงบลงแล้ว และมีพนักงานสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุและซักถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ในเบื้องต้นพร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องไปบ้างแล้ว สำหรับผลการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเบื้องต้น ยังคงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานในการหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ว่าต้นเพลิงมาจากที่ใด อย่างไร หรือมีผู้ทำให้เกิดเหตุครั้งนี้หรือไม่

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผ���้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยเจ้าหน้าที่ต้องเร่งระงับเหตุเพลิงไหม้ พร้อมทำการอพยพประชาชนหนี เพลิงไหม้ด้วยความรวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถเผชิญเหตุได้ในทันที และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบและมีมาตรการรักษาความปลอดภัย เกี่ยวกับตัวโครงสร้างอาคารภายหลังเกิดเหตุ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน ขณะเดียวกันประชาชนต้องตระหนักถึงการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุ เพราะเมื่อการเกิดเหตุการณ์แต่ละครั้ง ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน

(หมายเหตุ: ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เป็นข่าว)