นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มีการกระทำส่อทุจริตเกิดขึ้นจริง หลังได้รับการร้องเรียนจากการประปาส่วนภูมิภาคสาขาจังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากจังหวัดมุกดาหารเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ ระเบียงเศรษฐกิจ มีพื้นที่ทั้งหมด 1,080 ไร่ จึงมีโครงการขยายเขตการจำหน่ายน้ำประปาให้ประชาชนและนิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งใช้งบประมาณจากจังหวัดและการประปา เพื่อดำนเนินการใน 2 โครงการ ได้แก่
1. ขยายเขตจำหน่ายน้ำประปาด้วยการสร้างโมบายแพลน์ขนาด 300 คิวต่อชั่วโมง ซึ่งทั้งสองโครงการมีปัญหา เพราะแต่เดิมการประปาส่วนภูมิภาคมุกดาหาร มีกำลังผลิตสองโรงรวม 900 คิวต่อชั่วโมงกับ 200 คิวต่อชั่วโมง ผลิตได้ 26,400 คิวต่อวัน มีลูกค้าประมาณ 20,000 ราย รายหนึ่งใช้น้ำ 0.8 คิว เพราะฉะนั้นการใช้น้ำของจังหวัดมุกดาหารอยู่ที่ 16,000 คิวต่อวัน เท่ากับกำลังผลิตมีมากกว่าความต้องการ 10,000 คิว แต่กลับมีความพยายามจะผลิตเพิ่มทั้งที่พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษมีเพียง 1,080 ไร่ เพิ่มน้ำ 800 คิวต่อชั่วโมง ซึ่งมากเกินความจำเป็น
นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า ขั้นตอนการประมูลก็ไม่มีคู่แข่ง มีเพียงคู่เทียบเท่านั้น โดยโครงการนี้ งบประมาณ 120 ล้าน แต่กลับลดราคาไปได้เพียง 600,000 บาท ซึ่งพฤติกรรมการเคาะราคาและบริษัทเข้าร่วมส่อว่าจะเป็นการฮั้วประมูล
2. โครงการคอนกรีตแพลน งบประมาณ 330 ล้านบาท ทำโรงผลิตห้าร้อยคิวต่อชั่วโมง เป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก เพราะส่วนใหญ่การประปาจะออกแบบเอง แต่ครั้งนี้กลับจ้างบริษัทออกแบบ โดยมีกำหนดเสร็จกันยายน 2560 มีการขยายเวลาเป็น 4 ธันวาคม 2561 แต่ขณะนี้เกิดปัญหาตลิ่งพัง ต้องแก้แบบใหม่และเพิ่มเงินงบประมาณอีก 30 ล้านบาท แต่คนที่แก้แบบกลับกลายเป็นการประปาส่วนภูมิภาค ทั้งที่ต้องเป็นความรับผิดชอบของ บริษัทออกแบบ
จากการรับฟังข้อเท็จจริงของคนในการประปาเล่าว่า สิ่งที่ดำเนินการ ไม่ได้จ้างบริษัทออกแบบ แต่ออกแบบเอง เพียงแต่ยืมชื่อ บริษัทออกแบบมาอ้างเท่านั้น จากทั้ง 2 โครงการมีความเสียหายรวมมากกว่า 500 ล้านบาท
นายวิลาศ จะนำเรื่องไปร้องต่อ ป.ป.ช. ในวันอังคารที่ 24 กรกฎาคมนี้ และเรียงร้องให้ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาคตั้งกรรมการสอบกรณีนี้โดยด่วน เพราะการทุจริตในการประปาภูมิภาคที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากจนทำให้การประปาส่วนภูมิภาคขาดสภาพคล่อง