ไม่พบผลการค้นหา
สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจพบประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยหากมีการเลื่อนเลือกตั้ง เกรงกระทบต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ แต่ความนิยมของประชาชนต่อรัฐบาลยังเหมือนเดิม

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจประชาชนกรณีเลื่อนเลือกตั้ง พบประชาชนร้อยละ 48.2 อยากให้มีเลือกตั้งโดยเร็ว และให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่ร้อยละ 27.81 รับได้หากเลื่อนเลือกตั้งแล้วส่งผลดี ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และร้อยละ 26.07 เห็นว่าจะกระทบต่อภาพยนตร์ของประเทศ เป็นการสืบอำนาจ 

ส่วนกรณีประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ หากต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไป ร้อยละ 47.05 ไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้มีเลือกตั้งโดยเร็ว เลื่อนมาหลายครั้งแล้ว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ประเทศ ร้อยละ 32.44 ไม่รู้สึกอะไร เพราะเลือกตั้งช้าหรือเร็วก็ได้พรรคการเมืองเดิมๆ การเมืองไม่เปลี่ยนแปลง นักการเมืองเห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ และสุดท้ายร้อยละ 20.51 เห็นด้วย เพราะสถานการณ์ยังไม่แน่นอน ยังมีความขัดแย้งมีปัญหา ระยะเวลาที่เลื่อนออกไปไม่มาก ควรทำตามขั้นตอน

ด้านความรู้สึกที่ประชาชนมีให้กับการเลื่อนเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า ร้อยละ 39.97 รู้สึกเฉยๆ เพราะรัฐบาลยังสามารถควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองได้ดี บ้านเมืองสงบ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องมีการเลือกตั้ง ร้อยละ 97.14 รู้สึกผิดหวัง เพราะอยากเลือกตั้ง อยากได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกจั้ง อยากให้บ้านเมืองสงบในประชาธิปไตย ไม่รักษาสัญญา และร้อยละ 22.89 ไม่ผิดหวัง เพราะคาดว่าน่าจะเลื่อนอยู่แล้ว กฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ การเลือกตั้งอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาของประเทศได้

สำหรับการเลื่อนเลือกตั้ง ทำให้ความนิยมของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลเป็นอย่างไร พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 56.22 เห็นว่าเหมือนเดิม เพราะจะเลือกตั้งหรือไม่ก็ยังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบาก ข้าวของแพง เศรษฐกิจไม่ดี บ้านเมืองต้องพัฒนา ส่วนร้อยละ 39.45 ประชาชนรู้สึกผิดหวังไม่เป็นไปตามโรดแมป ความเชื่อมั่นลดลงแสดงว่าต้องการสืบอำนาจ และร้อยละ 4.33 เพิ่มขึ้นเพราะอยากให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไป เป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีทำเพื่อส่วนรวม

และหากมีการเลื่อนเลือกตั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 36.87 เห็นว่าจะยังมีการทะเลาะเบาะแว้งโจมตีกันไปมา ส่วนร้อยละ 35.19 เห็นว่าอาจมีกลุ่มที่ไม่พอใจออกมาเคลื่อนไหว วิพาษก์วิจารณ์ กดดันรัฐบาล และร้อยละ 34.68 เห็นว่ารัฐบาลยังบริหารประเทศต่อไป อยู่ภายใต้มาตรา 44