ไม่พบผลการค้นหา
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ภาพคู่พี่ชาย 'ทักษิณ ชินวัตร' ขณะเยือนรัสเซีย วันนี้ยังมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง โดยโพสต์ภาพถ่ายลงเฟซบุ๊กขณะเยือนเบลารุส พร้อมแจงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่-สวัสดิการรัฐบาลเบลารุส

เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมหลังจากที่มีการโพสต์ภาพถ่ายและข้อความระบุพิกัดที่ชัดเจนเป็นครั้งแรกว่าอยู่ที่กรุงมอสโกของรัสเซีย และล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 16 ก.ย.ตามเวลาไทย ได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปถึงประเทศเบลารุส

เนื้อหาในเฟซบุ๊กของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า "วันนี้ได้เดินทางต่อมาที่ประเทศเบลารุส (Belarus) ซึ่งเป็นประเทศเล็กติดกับรัสเซีย ที่สำคัญเป็นประเทศที่ดิฉันไม่เคยเดินทางมาก่อนเลย นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เพื่อนพี่ชายเชิญมาเยี่ยมชมในครั้งนี้​ ซึ่งสถานที่ที่ดิฉันมาคือศูนย์กลางแห่งการค้าขาย ที่มีการสร้างถนนเชื่อมต่อเพื่อเกิดเป็นศูนย์กลาง​ (Hub)​ แห่งแรกของยุโรปเหนือ"

"ทั้งนี้ เบลารุสเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล​ (Land Lock) แต่กลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย​ เพราะรัฐบาลสร้างทะเลสาบล้อมรอบ ออกกฎหมายให้ปลูกต้นไม้ สร้างสีเขียว แม้เบลารุสมีรายได้ประชากรต่อหัวไม่มาก​ แต่รัฐจัดให้ทุกคนในครอบครัวมีงานทำ​ ถ้าไม่ทำงานก็จะถูกปรับ จึงทำให้รายได้ต่อครัวเรือนสูง​ รัฐจึงสามารถนำภาษีอากรที่เก็บได้ มาบริหารจัดการเป็นสวัสดิการให้กับประชาชน เช่น การศึกษา การรักษาพยาบาลและสวัสดิการอื่นๆ ฟรีทุกคนตลอดช่วงชีวิต จึงทำให้ประเทศมีความมั่งคั่ง ประชากรมีรายได้สูงขึ้น"

"ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองประเทศนี้ถูกทำลายและใช้เชลยศึกชาวเยอรมัน​เป็นคนสร้างขึ้นมาใหม่ ภายใน 20 ปี ต่อมาภายหลังเบลารุสเจริญขึ้นมากโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน มีการสร้างเมืองคล้ายกับ Silicon Valley ของ ซานฟรานซิสโก ที่รวมนักวิจัยทางเทคโนโลยีใหม่หลายสาขามารวมกันไว้ที่นี่ โดยให้สิทธิพิเศษแก่นักลงทุนต่างประเทศ"

"จนในที่สุดตอนนี้ก็มีบริษัทขนาดเล็ก (Startup) เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก มีนักลงทุนมาร่วมกับบริษัทเล็กๆ เหล่านั้นมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ทำให้เบลารุสสามารถก้าวเข้าสู่ new economy ได้อย่างน่าสนใจทีเดียวค่ะ สำหรับการพัฒนาประเทศของเขา"

"ที่สำคัญสิ่งที่ประเทศนี้ประสบความสำเร็จคือชาวเบลารุสมีวินัยเป็นพื้นฐาน​ มีกฎหมายที่ทำให้เกิดระเบียบวินัยและความปลอดภัยสูง​ ประชากรจึงมีความสุข​ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ดิฉันเปลี่ยนความรู้สึกหลังจากได้มีโอกาสมาประเทศนี้ จึงเก็บเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังค่ะ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: