นางอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐของเมียนมาแสดงความเห็นระหว่างออกแถลงการณ์ร่วมกับนายทะโร โคโนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่นว่า การสอบสวนเกี่ยวกับการสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาของกองทัพเมียนมาถือเป็นสัญญาณบวกว่า มีการทำตามขั้นตอนแล้ว และเชื่อว่าการสอบสวนนี้จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
แถลงการณ์การสอบสวนของกองทัพเมียนมายอมรับว่า เจ้าหน้าที่บางคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหาร “ผู้ก่อการร้ายชาวเบงกาลี” 10 ราย เพราะต้องการแก้แค้นแทนประชาชนชาวพุทธ นอกจากนี้กองทัพยังประกาศว่าจะลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ทำผิดกฎด้วย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าบทลงโทษจะเป็นอย่างไร
ด้านนายโคโนะได้เรียกร้องให้นางซูจีจัดการเรื่องการตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ปลอดภัยให้กับผู้ลี้ภัยที่ต้องการกลับเมียนมาอย่างสมัครใจ และญี่ปุ่นจะสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลเมียนมาอย่างเต็มที่ โดยญี่ปุ่นมีแผนจะให้เงินสนับสนุนด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ หรือ 640 ล้านบาท
กองทัพเมียนมาถูกนานาชาติกล่าวหาว่าสังหารและข่มขืนชาวโรฮิงญา รวมทั้งเผาไล่ที่หมู่บ้านชาวโรฮิงญา โดยความรุนแรงรอบล่าสุดที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2017 ทำให้ชาวโรฮิงญาต้องอพยพออกไปยังบังกลาเทศมากกว่า 650,000 คน ขณะที่สหประชาชาติเรียกความรุนแรงที่เกิดกับชาวโรฮิงญาในยะไข่ว่าเป็นการ "ลบล้างเผ่าพันธุ์"
ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดมาโดยตลอด อีกทั้งยังไม่ยอมรับว่าชาวโรฮิงญาเป็นพลเมืองของเมียนมาที่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ แต่จะเรียกชาวโรฮิงญาว่าเป็น "ชาวเบงกาลี" หรือ "ผู้ก่อการร้ายเบงกาลี" เพื่อสื่อว่า ชาวโรฮิงญาเป็นผู้อพยพมาจากบังกลาเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: