ไม่พบผลการค้นหา
กรมอุตุฯ ออกประกาศพายุโซนร้อนเบบินคา ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ด้านกรมชลประทานเร่งระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เพื่อรองรับปริมาณน้ำระลอกใหม่จากอิทธิพลของพายุลูกนี้

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ "พายุเบบินคา" ฉบับที่ 27 ลงวันที่ 17 ส.ค. 2561 โดยเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (17 ส.ค. 61) พายุโซนร้อน “เบบินคา” (BEBINCA) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 80 กิโลเมตร ทางด้านใต้ของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 19.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 106.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 16 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ (17 ส.ค. 2561) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาว

ในวันที่ 18 ส.ค. 2561 ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้

ในช่วงวันที่ 17-18 ส.ค. 2561

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และตาก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต


ในวันที่ 19 สิงหาคม 2561

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย และตาก

ภาคตะวันออก: จังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง ทำให้ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร และอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กงดออกจากฝั่ง จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2561 ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด


กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำเขื่อนแก่งกระจาน

ด้านนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าพายุโซนร้อนเบบินคา จะส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยปัจจุบันสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี (ณ วันที่ 16 ส.ค. 2561) มีปริมาณน้ำ 732 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 103 มีน้ำไหลลงอ่างฯวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของเขื่อนแก่งกระจาน ทำให้มีน้ำไหลลงอ่างฯเพิ่มขึ้น ขณะที่การะบายน้ำทางช่องทางปกติและกาลักน้ำ รวมกันประมาณ 185 ลบ.ม./วินาที หากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างฯยังไม่ลดลง การระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจานมีแนวโน้มจะระบายน้ำเพิ่มขึ้น 

ส่วนบริเวณด้านหน้าเขื่อนเพชร ได้มีการผันน้ำเข้าระบบชลประทานและคลองระบายน้ำ D9 รวมกันประมาณ 70 - 80 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเพชรลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ในอัตราประมาณ 100 – 110 ลบ.ม./วินาที อาจจะส่งผลกระทบที่ลุ่มต่ำบางแห่งได้ จึงได้รายงานสถานการณ์น้ำให้ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรีทราบ เพื่อให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรีทั้ง 2 ฝั่งทราบ และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่อไป

สำหรับเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก ปัจจุบัน (16 ส.ค. 2561) มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 185 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 82 เร่งระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม อย่างไรก็ตามฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบนบริเวณเขาเขียว ส่งผลให้มีน้ำไหลลงอ่างฯวันละประมาณ 10 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่มีการระบายน้ำวันละประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม. ยังไม่ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งแต่อย่างใดและระดับน้ำมีแนวโน้มเริ่มลดลงแล้ว ซึ่งได้วางแผนบริหารจัดการน้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชล ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมที่เหมาะสม ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละช่วงเวลาพร้อมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด