จากกรณีที่สังคมออนไลน์มีการแชร์ภาพ นายสมชาย ยามดี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในกระทรวงสาธารณสุข ถูกรถนายแพทย์ขับรถชนบริเวณประตูกระทรวงสาธารณสุขฝั่งสถาบันบำราศนราดูร จนบาดเจ็บอาการสาหัส ยังไม่รู้สึกตัว โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.60 ที่ผ่านมา

โดยภาพจากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว คันหนึ่งขับ รปภ.จนล้มลง โดยที่เจ้าของรถไม่หยุดรถลงมาดูคนเจ็บเลยแต่ยังขับต่อไปอีกประมาณ 30 เมตร

หลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.สุวัฒน์ เสน่หา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี รีบรุดไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมนำตัว นพ.ยอร์น จิระนคร รองผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและเป็นสาธารณสุขนิเทศน์ เขต 12 มาสอบปากคำที่โรงพักแต่ผู้ต้องหาไม่ยอมให้เป่าแอลกอฮอลล์ โดยอ้างว่าเป็นสิทธิ์ของตนเอง อีกทั้ง รปภ.คนเจ็บเองก็ยังให้ปากคำไม่ได้ ก่อนที่ นพ.ยอร์น จะเดินทางกลับในเวลาต่อมา

และเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 13 พ.ย. 60 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศก์เขต 12 กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นคู่กรณี ได้เดินทางมาเยี่ยมนายสมชาย ยามดี ที่หออภิบาลระบบทางเดินหายใจศัลยกรรม ชั้น 15 รพ.พระนั่งเกล้า 

นพ.ยอร์น กล่าวว่า ตนยอมรับในสิ่งที่กระทำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ตั้งใจ โดยเหตุการณ์ขณะชนนั้น ได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจแล้ว และยืนยันว่าในเรื่องการบาดเจ็บของผู้ป่วย ตนจะรับผิดชอบเต็มที่ และเรื่องนี้เป็นเหตุส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับกระทรวงสาธารณสุข ตนเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขออภัยกับทางครอบครัว ซึ่งตนก็ยินยอมสู้กับข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องใดที่เป็นส่วนของคดีก็ขอให้เป็นเรื่องของคดีต่อไป

แต่ขอยืนยันว่า ตนไม่เคยหนีเลย ตนจอดรถมาดู ซึ่งพออธิบายก็จะเป็นเรื่องแก้ตัว แต่ประตูกระทรวงบริเวณดังกล่าวก็ปิดประมาณ 20.00 น. บางทีก็ปิดบางทีก็ไม่ปิด และบริเวณนั้นก็มืด ตนมองไม่เห็นจริงๆ และรถคันหน้าตนเข้าไปก่อน และเมื่อเกิดเหตุตนก็ได้หยุดแล้ว ซึ่งขับรถไม่ได้เร็ว

ด้านความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่าคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้แล้วเป็นคดีการจราจรทางบก ต้องมีการสอบสวนและเรียกตัวผู้ขับขี่มาดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ด้านการตรวจแอลกอฮอล์นั้นทางพนักงานสอบสวนมีการเรียกให้ผู้ขับขี่ตรวจ แต่ทางผู้ขับขี่ไม่ยินยอมให้ตรวจ ให้สันนิษฐานตามกฎหมายได้ว่าให้ถือว่าเมาจากนั้นจะแจ้งข้อกล่าวหาด้วย เบื้องต้นคดีนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

และขับขี่รถในขณะเมาสุรา แต่ถ้าที่ปรากฎตามคลิปมีการขับทับจะมีการสอบสวนพยานประกอบ ถ้านอกเหนือจากความผิด พ.ร.บทางบกแล้ว และมีเจตนาทางด้านอื่นด้วยจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ส่วนผู้ขับขี่ได้เข้ามารับทราบข้อหาแล้วและผู้ขับขี่ได้รับผลกระทบจากแอร์แบ็คระเบิดขอไปรักษาตัวก่อน ทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นผู้ที่ไม่หลบหนีและให้หลักฐานแสดงตัวไว้จึงได้ให้ไปรักษาตัวก่อน สอบพยานที่เกี่ยวข้องไปหลายปากแล้ว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บยังไม่รูสึกตัวจึงสันนิษฐานว่าบาดเจ็บสาหัสไว้ก่อน