ไม่พบผลการค้นหา
“ผมเคยคิดว่าผมไม่มีห่วงอะไรแล้วในตอนนี้ เพราะผมเลี้ยงลูกทุกคนจนโตมา แต่ผมไม่รู้ว่าผมจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร” พ่อวัย 58 ปี ของลูกสาวชาวเกาหลีใต้ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในอิแทวอนเมื่อ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา

คิมเปิดแชทโทรศัพท์ของเขากับลูกสาวในวัย 25 ปี 1 ใน 154 ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเบียดกันตายในปาร์ตี้วันฮาโลวีน ณ พื้นที่อิแทวอนของกรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อช่วงคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 ต.ค.)

“ผมเคยคิดว่าผมไม่มีห่วงอะไรแล้วในตอนนี้ เพราะผมเลี้ยงลูกทุกคนจนโตมา แต่ผมไม่รู้ว่าผมจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร” คิมในวัย 58 ปี ระบุกับสื่อท้องถิ่นหลังจากเปิดแชทให้ผู้สื่อข่าวดู ขณะที่เขากำลังรอรับร่างของลูกสาว ที่โถงศพโรงพยาบาลมกดก มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.)

29 ต.ค.วันเกิดเหตุเศร้าสลดในอิแทวอน เป็นวันเดียวกันกับวันเกิดลูกสาวที่เสียชีวิตของคิม

เพื่อเป็นของขวัญวันเกิด ลูกสาวของคิมจองและจ่ายค่าอาหารตึกชั้นลอยฟ้าค่ำสุดหรูให้แก่พ่อและแม่ของเธอ ก่อนที่เธอจะส่งข้อความหาพ่อของเธอว่า “ขอให้มีความสุขกับแม่นะ” พ่อและแม่ตอบแชทของเธอเพื่อขอบคุณ พร้อมกับชมอาหารที่ลูกสาวออกค่าใช้จ่ายให้ว่าอร่อยมาก ข้อความสุดท้ายที่ลูกสาวส่งให้กับคิม คือ “หนูจะไปอิแทวอนเพื่อฉลองฮาโลวีนนะ”

เรื่องราวของคิมเป็นอีกหนึ่งใน 154 ชีวิตที่สูญเสียไปในเมืองหลวงของเกาหลีใต้ จากหมันตภัยในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยรุ่นอายุประมาณ 20 กว่าปี การฉลองปาร์ตี้ฮาโลวีนในครั้งนี้ นับเป็นงานฮาโลวีนที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปี หลังจากเกาหลีใต้พบกับการระบาดของโควิด-19 เหตุการณ์ในอิแทวอนนี้ ยังเป็นเหตุเบียดกันตายครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศด้วย

อันในวัย 54 ปี ยืนรอกว่า 6 ชั่วโมงที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยซูนชุนฮยางในกรุงโซล ก่อนที่ข่าวการเสียชีวิตของลูกสาวของเธอจะได่รับการยืนยัน เธอเล่าว่าลูกสาววัย 20 ปีของเธอเป็นที่พักพิงใจของเธอ หลังจากที่เธอสูญเสียสามีไป ทั้งนี้ ลูกสาวของเธอตัดสินใจลาออกมหาวิทยาลัยแล้วเลือกที่จะอยู่กับแม่แทน เพื่อช่วยหารายได้ผ่านการทำงานพาร์ทไทม์ที่โรงพยาบาลและร้านอาหาร อย่างไรก็ดี อันสูญเสียที่พักพิงใจของเธอไปอีกคนตลอดกาล

นอกจากชาวเกาหลีใต้ที่เสียชีวิตจำนวนมาก ชาวต่างชาติก็เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตด้วย เกรซ ราเชด ชาวออสเตรเลียวัย 23 ปี ถูกจดจำจากครอบครัวของเธอในฐานะโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ที่มากไปด้วยความสามารถ ราเชดเป็นหนึ่งในชาวต่างชาติที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในอิแทวอน 

“เราคิดถึงนางฟ้าผู้งดงามของเรา เกรซ ผู้ทำให้ห้องทั้งห้องสว่างขึ้นด้วยรอยยิ้มอันลอยฟุ้งออกไป” ครอบครัวราเชดระบุ “เกรซทำให้คนอื่นรู้สึกว่าตัวเองสำคัญเสมอ และความใจดีของเธอสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่เธอเคยพบ เกรซห่วงใยผู้อื่นเสมอและเธอก็เป็นที่รักของทุกคน” นอกจากราเชดแล้ว ยังมีชาวออสเตรเลียอีก 2 รายที่กำลังได้รับการรักษาตัวในห้อง ICU หลังจากเหตุการณ์เบียดเสียดในครั้งนี้

ยังมีชาวสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สตีฟ บเลซี พยายามขอความช่วยเหลือ เพื่อตามหาลูกชายของเขาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่ สตีเวน บเลซี นักเรียนแลกเปลี่ยนจากสหรัฐฯ วัย 20 ปี ขาดการติดต่อจากครอบครัวไป โดยสตีเวนไปร่วมปาร์ตี้ฮาโลวีนที่อิแทวอน หลังจากเขาสอบกลางภาคจบ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงโซลยืนยันกับสตีฟหลังจากการประกาศหาตัวไม่กี่ชั่วโมงว่า ลูกชายของเขาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แล้ว

“มันเหมือนกับถูกแทงเป็นร้อยล้านครั้งพร้อมๆ กัน” บเลซีบอกกับ The New York Times “มันเหมือนกับว่าโลกของคุณกำลังจะพังทลาย มันทั้งมึนงงและพังทลายในเวลาเดียวกัน” บเลซีกล่าว “เขามีจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยและจิตวิญญาณแห่งความรัก” บเลซีกล่าวถึงลูกชาย “นั่นเป็นวิธีเดียวที่ผมสามารถอธิบายถึงเขาได้ และการสูญเสียนี้มันสุดจะเหลือทน”

บเลซีเล่าว่าเขาและภรรยาพยายามคิดในแง่ดี ถึงแม้ว่าการโทรไปยังโทรศัพท์มือถือของสตีฟจะได้รับคำตอบในที่สุดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาหวังว่าบางทีลูกชายของตัวเอง ซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคนเนซอร์สเตทในจอร์เจีย และเดินทางไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนในเกาหลีใต้ อาจจะแค่ทำโทรศัพท์หายหรือพัง บเลซีแสดงความโกรธต่อเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้ฝูงชนเข้าไปกระจุกตัวเป็นจำนวนมาก “ผมเห็นนักการเมืองแสดงความเสียใจบนทวิตเตอร์” เขากล่าว “สำหรับผม มันเป็นแค่การประชาสัมพันธ์ในตอนท้าย ในขณะที่พวกเขาควรจะพยายามทำให้แน่ใจว่า มันจะมีกฎเกณฑ์ที่จะไม่ปล่อยให้ความแออัดแบบนี้เกิดขึ้นอีก”

แอนน์ กีสเก นักศึกษาชาวอเมริกันอีกคน ได้ฉลองวันเกิดของเธอในวันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในอิแทวอน แดน กีสเก พ่อของแอนน์ซึ่งเป็นนักศึกษาพยาบาลอายุ 20 ปี ของมหาวิทยาลัยเคนทักกีกล่าวว่า ครอบครัวรู้สึกเสียใจและหัวใจแตกสลายหลังจากการสูญเสียแอนน์ไป “เธอเป็นแสงสว่างที่ทุกคนรัก” แดนกล่าว “เราขอคำอธิษฐานจากคุณ แต่ขอการเคารพความเป็นส่วนตัวของเราด้วย ของขวัญชิ้นสุดท้ายของแอนน์ที่มอบให้เรานั้น คือการตายจากไปในสภาพของความบริสุทธิ์ส่องสว่าง เรารู้ว่าสักวันหนึ่งเราจะได้พบกับเธออีกครั้งในพระอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า”

อีจีฮัน นักแสดงเกาหลีใต้ในวัย 25 ปี ซึ่งถูกจดจำในฐานะ “คนที่สดใสและบริสุทธิ์” ได้รับการยืนยันจากเอเจนซี่ 935 Entertainment ถึงการเสียชีวิตของเขา จากเหตุการณ์ในอิแทวอนผ่านแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า “เรายังจำอี ซึ่งมีรอยยิ้มกว้างและทักทายผู้คนด้วยพลังบวกได้ เขาเป็นคนที่สดใสและบริสุทธิ์ และเราไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะไม่เห็นเขาอีกแล้ว” ทั้งนี้ งานศพของอีจะจัดขึ้นในวันอังคารนี้ (1 พ.ย.)

เพื่อนๆ พูดถึงความเศร้าโศกของพวกตน หลังจากทราบเรื่องการเสียชีวิตของ ยูนา คิม อดีตเชียร์ลีดเดอร์วัย 24 ปี เพื่อนคนหนึ่งแบ่งปันภาพของเธอผ่านทางโซเชียมีเดีย พร้อมกับข้อความว่า “ฉันร้องไห้มานาน ฉันยังไม่อยากเชื่อเลย” 

วันรุ่งขึ้นหลังเหตุการณ์ในอิแวทอน ประชาชนบางคนยังรอข่าวอยู่ ในขณะที่สามีภรรยาคู่หนึ่งเดินทางจากจังหวัดแทจอนไปยังกรุงโซล หลังจากที่เพื่อนของลูกสาวของทั้งสองบอกกับพวกเขาว่า พวกเขาเห็นเธอถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยพาตัวไปเป็นครั้งสุดท้าย

“พวกเขาเฝ้าดูขณะที่เธอถูกพาตัวไป” ผู้เป็นพ่อกล่าว “ข้อความสุดท้ายที่ผมได้รับจากลูกสาวของเราคือ 'พ่อ หนูจะไปโซลเป็นครั้งแรกหลังจากผ่านมานาน' เธออายุ 20 ปีในปีนี้ ผมแค่หวังว่าเธอยังมีชีวิตอยู่” ลูกสาวของทั้งสองยังคงหายตัวไป เช่นเดียวกันกับผู้หายสาบสูญจากเหตุการณ์ในอิแทวอนอีกหลายราย ที่ครอบครัวยังคงรอคอยการติดต่อกลับมา


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/oct/31/grief-over-loved-ones-lost-in-seoul-deadly-halloween-crowd-crush-itaewon?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR2TM5GHCdqOjsY_BvRcJRQzKAzhKTLB7Zt6x1nkBSVRj-mUnsH1QliLf7A