วันที่ 24 ม.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่ได้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ และไม่จำเป็นต้องนำเข้า ครม.แล้ว เพราะหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจสอบแล้วเสร็จ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดทำกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ตามมาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนด ในวันพุธที่ 2 ก.พ. 2565 จากนั้นเมื่อครบกำหนด กกต.จะส่งให้ สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยไม่ต้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีก โดยคาดว่าร่างกฎหมายจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาในช่วงกลางเดือน ก.พ. ซึ่งน่าจะพร้อมกับกับร่างของ ส.ส.ที่นายกรัฐมนตรีจะเซ็นต์รับรอง
วิษณุ ยอมรับว่า กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับอาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่ไม่กี่วัน เพราะรัฐสภากำลังปิดสมัยประชุมแล้ว ซึ่งในระหว่างนั้นก็จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ และหากเสร็จระหว่างปิดสมัยประชุม รัฐบาลพร้อมที่จะขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวาระที่ 2 และ 3 เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดกรอบระยะเวลาในการพิจารณาไว้ 180 วัน หรือ 6 เดือน
วิษณุ ยังยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ยื้อกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ เพื่อต่ออายุรัฐบาล เพราะการที่จะเปิดสภาสมัยวิสามัญให้แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้ยื้อ แต่ถ้าสภาขอมาแล้วเราไม่เปิด นี่ถึงเรียกว่ายื้อ
ส่วนที่ส.ส.หลายคนต้องกักตัว จากสถานการณ์ โควิด-19 จะเสี่ยงต่อ การพิจารณากฎหมายสำคัญหรือไม่ วิษณุไม่ตอบ โยนให้เป็นเรื่องของสภา
วิษณุ ยังกล่าวถึง กรณีที่ สมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส. นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 21 ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรค เรียกร้องพรรคพลังประชารัฐทบทวนมติดังกล่าว เนื่องจากอ้างว่าไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้อยู่ในกระบวนการของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ว่า ตนไม่ทราบเรื่อง ในระหว่างที่พรรคยังไม่ส่งมติไปยังกกต.ก็สามารถจัดประชุมเพื่อทบทวนเรื่องดังกล่าวได้
นายกฯ สั่งรับมือซักฟอก ย้ำไม่มีพรรคร่วม มีพรรคร่วมหนึ่งเดียว
ด้าน ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบในที่ประชุม ครม. รายงานวาระรัฐสภา ว่าจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ในเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนร่วมกันผลักดันกฎหมายที่มีความสำคัญ ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจให้กฎหมายของไทยเป็นไปตามหลักสากล รวมทั้งญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ทุกกระทรวงเตรียมความพร้อมในการชี้แจง ซึ่งรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงต้องช่วยชี้แจงเองด้วย พร้อมกับย้ำว่าการทำงานของรัฐบาล ไม่มีคำว่าพรรคร่วม มีแต่พรรคร่วมรัฐบาลเพียงหนึ่งเดียว