ไม่พบผลการค้นหา
'พริษฐ์' ไม่ทราบ 'เพื่อไทย' เตรียมนัดขอขมาขอโทษ มองตั้งรัฐบาลเพื่อไทยสูตรสลายขั้ว 'ภาคพิศดาร' ทั้งที่ประชาชนเลือกก้าวไกลเป็นอันดับหนึ่ง

วันที่ 9 ส.ค. พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ปฏิเสธ ไม่รับทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะยกขันไปขอขมาขอโทษพรรคก้าวไกล เรื่องนี้ให้คณะเจรจาเป็นคนออกมาพูดดีกว่า 

ส่วนการจะไปขอโทษขอขมา จะเป็นการสมานฉันท์ และรอยแผลระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่รู้ว่าการพูดคุยเป็นอย่างไร ย้ำจุดยืนพรรคก้าวไกล ว่าพันธมิตร 8 พรรคจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับประเทศนี้ดีที่สุด และผลการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมต้องการให้เปลี่ยนแปลง

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยบอกว่าสลายขั้วในความคิดเห็นส่วนตัวเป็นอย่างไร พริษฐ์ บอกว่า ตนเองไม่รู้ว่าจะนิยามว่าพันธมิตรเป็นขั้วอะไร แต่ยังยืนยันว่า พันธมิตร 8 พรรค คือ คำตอบในสถานการณ์นี้ ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลชัดเจนมาตลอด การตั้งรัฐบาลไม่ควรเป็นรูปแบบอื่น นอกจาก 8 พรรคที่เซน MOU ร่วมกัน 

ส่วนขณะที่คำว่ารัฐบาล ที่ ภูมิธรรมเสนอ พริษฐ์ย้ำว่า รัฐบาลที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุดคือรัฐบาลที่เป็นไปตามผลการเลือกตั้ง เมื่อพรรคที่ได้คะแนนอันดับหนึ่ง และสามารถรวมเสียงกันได้มากกว่าตั้งรัฐบาลด้วยเสถียรภาพ ซึ่งเป็นตามครรลองประชาธิปไตย 

ส่วนจะรอเพื่อไทยกลับมาง้อหรือไม่ คาดว่าเป็นสักดาห์หน้าคณะเจรจาจะออกมาให้คำตอบ ตอนนี้ตอบไม่ได้ว่า หวัง หรือไม่ หวังให้เขามาง้อ 

ส่วนที่พรรคเพื่อไทย บอกว่าเป็นการทำการเมืองมิติใหม่ ไม่มีฝ่ายค้าน แต่จะเป็นรัฐบาลทั้งหมด สิ่งที่เราต้องการคือการเมืองปกติ กติกาปกติ การเลือกนายกรัฐมนตรีการจัดตั้งรัฐบาลต้องเป็นไปตามมติของ ส.ส. 500 คน ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ปัจจุบันเมื่อ 272 ดำรงอยู่และทำให้ส.ว. 250 คนมีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีก็เลยทำให้ปัจจุบันเผชิญความท้าทาย สิ่งที่ยืนยันที่เราต้องการจะเห็นประชาธิปไตยแบบปกติเราต้องไม่ปล่อยให้อำนาจของ สว. ในการเลือกนายก ตามมาตรา 272 เข้ามาแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลการแทรกแซงโดยใช้อำนาจผ่านมาตรา 272 สองวิธีหลักก็คือ แทรกแซงการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และ สองคือ ตั้งรัฐบาลข้างมากสูตรพิสดาร คือเป็นรัฐบาลที่มีเสียงสนับสนุนจนถึงหนึ่งแต่เป็นการผสมผสานของพรรคการเมืองที่ถูกบีบโดย สว. ทำให้รวมตัวกันโดยไม่ได้ยึดผลการเลือกตั้งกับอุดมการของแต่ละพรรค เพราะฉะนั้นจุดยืนของพรรคก้าวไกลจะไม่ปล่อยให้ อำนาจส.ว. ในการเลือกนายกมาตรา 272 แทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาลให้เป็นอื่นใดก็คือรัฐบาลจาก 8 พรรค 

ยังยืนยันภารกิจของพรรคก้าวไกลชัดเจน คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงประเทศเมื่อเป้าหมายสูงสุดมีชัดเจน ก็ต้องมีอำนาจรัฐมาขับเคลื่อนนโยบาย พรรคอันดับหนึ่งมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล แต่อำนาจนั่นจะแลกมาด้วยอะไร ที่ทำให้ก้าวไกลไม่สามารถขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลง คำถามจึงต้องมาย้อนถามว่าตัวเองว่ามีอำนาจรัฐไว้ทำไม